ดูหนังออนไลน์
Anacondas: The Hunt for the Blood Orchid ฝูงงูยักษ์สืบพันธุ์
หากจะย้อนเรื่องราวไปในปี 1997 หนังเรื่อง นี้นั้น เป็นหนังอีกหนึ่งเรื่องที่โดนคำวิจารณ์อย่างมากในด้านลบ แต่ตัวหนังเรื่องนี้เมื่อได้เข้าฉายแล้วกลับทำรายได้อย่างมหาศาลทั่วโลกเลยทีเดียว แถมยังได้ดารานักร้องดาวรุ่งอย่าง เจนิเฟอร์ โลเปซและไอซ์ คิวป์ มารับบทนำ พ่วงด้วยดารารุ่นใหญ่อย่างจอน วอยซ์ มารับบทเป็นกองคาราวานถ่ายทำสารคดีจาก National Geographic ร่วมเดินทางเข้าป่าอเมซอนไปถ่ายทำชีวิตของชนเผ่าพื้นเมือง แต่ระหว่างการเดินทางผ่านลุ่มแม่น้ำ พวกเขาก็พบว่ามีอสูรกายงูยักษ์จ้องเล่นงานพวกเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย พวกเขาจึงต้องหาหนทางเอาตัวรอดก่อนจะลงไปอยู่ในท้องของอนาคอนด้า ติดตามหนังใหม่ได้ที่ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรีHD
Anacondas: The Hunt for the Blood Orchid หนังงูยักษ์มนภาคนี้นั้น ได้ถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง ในปี 2004 ซึ่งเป็นหนัง อนาคอนด้า ที่ตัวเรื่องของหนังไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆเลยกับหนังนภาคแรก แต่เป็นหนังที่เหมือนจะเอาหนังในภาคแรกนั้นมารีแมคใหม่ทั้งหมด โดยหนังภาคนี้แทบจะหยิบโครงสร้างของหนังภาคแรกมาทั้งยวง เปลี่ยนแค่กลุ่มตัวละครหลักจากทีมถ่ายทำสารคดีให้กลายเป็นเหล่านักวิจัยจากบริษัทยามีแผนการเดินทางไปยังป่าลึกของเกาะบอร์เนียว เพื่อไปนำ “กล้วยไม้สีเลือด” มาทำการสังเคราะห์องค์ประกอบทำยา แน่นอนว่าระหว่างทางพวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับเหล่างูยักษ์อนาคอนด้า
ทั้งเรื่องของตัวละคร เช่น เหล่าของนักวิทยาศาสตร์นักวิจับ และเหล่าผู้ที่มาร่วมเดินทางพจญภัยไปด้วยกันในเรื่องนี้ เรียกได้ว่าลอกแบบจากหนังภาคแรกมาครบครัน โดยเฉพาะการวางบุคลิกตัวเอก ตัวร้าย ตัวตลก เป็นรูปแบบจำเพาะ (หนังยุคปี 2000 ต้นๆ มักจะมีการกำหนดลักษณะจำเพาะของตัวละครเอาไว้ เด่นชัดที่สุดคือ นักแสดงผิวสี มักจะต้องเล่นบทตลก พูดจาหยาบคาย ขี้โวยวาย เป็นต้น) ดูหนังออนไลน์บนมือถือได้ที่ เว็บดูหนังมาสเตอร์บนมือถือ
เป็นที่น่าเสียดายเป็นอย่างมากเลย เพราะชื่อหนังต้องการที่จะสื่อถึงงูยักษ์ Anacondas แต่กลับกลายเป็นว่า กว่าที่ผู้ชมจะได้สะใจไปกับฉากของงูที่ปรากฏตัวออกมานั้น ก็กินเวลาเล่าเรื่องไปกว่าเกือบหนึ่งชั่วโมง จนเหตุการณ์ในภาคนี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการแสดงบทที่ไม่กินเส้นไม่ลงรอยกันระหว่างตัวละครจนน่ารำคาญ มิหนำซ้ำสิ่งที่คนดูต้องการที่สุดก็คือ งูยักษ์ กลับปรากฏตัวบนจอน้อย และไม่ค่อยจะสาแก่ใจนักสำหรับฉากไคลแม็กซ์ที่ดูราบเรียบจนเกินไป
แต่สุดท้ายแล้วนั้น หากเราวิเคราะห์กันตามลักษณะของงูอนาคอนด้า ในหนังภาคนี้นั้น จะสังเกตุได้ว่าชื่อเรื่องของหนังนั้นได้มการเพิ่มตัว s เข้ามาต่อท้าย ซึ่งแปลว่าต้องการที่จะสื่อถึงงูแบบหลายตัว แต่หนังแทบไม่ได้มีการใช้ประโยชน์จากจำนวนงู ในการสร้างความตื่นเต้นระทึกขวัญจากสิ่งเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควร เว้นแต่เพียงฉากบ่องู อันปรากฏภาพเหล่าอนาคอนด้ากำลังผสมพันธุ์กันในตอนท้าย ซึ่ง “มาช้า” เกินไปอย่างน่าเสียดาย แถมยังไม่มีการแผลงฤทธิ์แบบหมู่คณะงูใดๆ ให้คนดูสาแก่ใจเลยสักนิด