จากที่ทำโครงงานนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น เราได้อะไรมากกว่าที่คิดไว้เยอะมาก
แรก ๆ เราคิดว่ามันก็แค่ “ทำตามโจทย์” เก็บข้อมูล คำนวณตัวเลข แต่พอลงมือจริงถึงรู้ว่ามันคือการเรียนรู้ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การคิดปัญหา การหาวิธีแก้ การลองผิดลองถูก ไปจนถึงการสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจ
เราได้ฝึกใช้คณิตศาสตร์ เช่น การวางเส้นทางเก็บขยะด้วยวิธีคณิตศาสตร์เชิงเส้น (Linear Programming) และอัลกอริทึม Savings ฟังดูเป็นสูตรเยอะ ๆ แต่พอทำจริง มันคือการใช้เหตุผลและข้อมูลมาช่วยตัดสินใจ ซึ่งทำให้เห็นว่าคณิตศาสตร์ไม่ได้อยู่แค่ในหนังสือ แต่ช่วยแก้ปัญหาของชุมชนได้จริง ๆ
สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการทำงานเป็นทีม เราต้องแบ่งหน้าที่ ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้พลาด บางครั้งก็มีเถียงกันบ้าง แต่ก็ทำให้เราเรียนรู้การฟังคนอื่นและการสื่อสารให้ชัดเจนขึ้น
สรุปคือ โครงงานนี้ไม่ได้ให้แค่ความรู้เชิงวิชาการ แต่ให้มุมมองใหม่ ๆ ว่า “คณิตศาสตร์คือเครื่องมือแก้ปัญหา” และยังสอนให้เราอดทน รับผิดชอบ และกล้าคิดกล้าลองมากขึ้นด้วย
สัมภาษณ์ จ.อ.นเรศ สุศิริ เกี่ยวกับระบบการจัดการขยะของเทศบาลเมืองอุทัยธานี