การจัดการ Template , Device และ Dashboard
บน Web App Blynk 2.0
การจัดการ Template , Device และ Dashboard
บน Web App Blynk 2.0
1. การสร้าง Template
1. เมื่อ Login เข้า Blynk 2.0 มาแล้ว เข้าไปเลือกแถบเมนูด้านซ้ายที่ icon template จากนั้นคลิกที่ New Template
2. จะขึ้นหน้า Create New Template โดยมีช่องให้กรอกข้อมูลดังนี้
- NAME คือ ให้ระบุชื่อ Template
- HARDWARE คือ ให้เลือกอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมที่ต้องการ
- CONNECTION TYPE คือ ให้เลือกการเชื่อมต่อเครือข่าย
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้กด Save
3. จะเข้าหน้า Template ที่เราสร้างขึ้นมาดังภาพ จากนั้นกดปุ่ม Save ที่มุมบนด้านขวา
4. เข้าไปเลือกแถบเมนูด้านซ้ายที่ icon template อีกครั้ง จะปรากฎ template ที่เราสร้างขึ้นมา
2. การสร้าง Device
1. เข้าไปเลือกแถบเมนูด้านซ้ายที่ Device แล้วกดปุ่ม New Deaive
2. เลือก Form Template
3. จะขึ้นหน้า New Device โดยมีช่องให้กรอกข้อมูลดังนี้
- TEMPLATE คือ ให้เลือก Template ที่ต้องการ
- DEVICE NAME คือ ให้ระบุชื่อที่ต้องการ
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้กด Create
4. สร้าง Device สำเร็จจะได้ดังภาพ แต่สังเกตว่าจะมีบร็อคชื่อ New Device Created! โดยมีรายละเอียดข้างในที่สำคัญดังนี้
#define BLYNK_TEMPLATE_ID คือ ID ของ Template
#define BLYNK_TEMPLATE_NAME คือ ชื่อของ Template
#define BLYNK_AUTH_TOKEN คือ รหัสที่ใช้เชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์ Microcontroller กับ Blynk 2.0
โดยทั้ง 3 จะใช้สำหรับการนำไปกำหนดค่าการเชื่อมต่อในโปรแกรม Microcontroller
5. เข้าไปเลือกแถบเมนูด้านซ้ายที่ Device จะพบอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาแล้ว และสามารถสร้างเพิ่มได้
6. ถ้าเลือกแถบเมนูด้านซ้ายที่ Template cและเลือก Template ที่ต้องการก็จะพบอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นมาในแถบ Devices
3. การสร้าง Widget บน Dashboard
1. เข้าไปเลือกแถบเมนูด้านซ้ายที่ Device แล้วคลิกเลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ
2. จากนั้นเลือกปุ่มแก้ไข แล้วเลือกเมนู Edit Dashboard
3. จะแสดงหน้าจัดการ Dashboard
4. ที่ Widget Box จะมีรูปแบบ Widget ตามที่ต้องการทั้งแบบฟรี และไม่ฟรี แต่ในบทความนี้จะใช้ Widget ฟรี ให้คลิกที่ Widget ชื่อ Switch แล้วลากมาพื้นที่จัดการ Dashboard ด้านขวา และวางลงในตำแหน่งที่ต้องการ
5. นำเมาส์ไปวางบน Widget Switch บน Dashboard แล้วเลือก Icon ฟันเฟืองที่อยู่ตรงกลาง เพื่อเข้าไปตั้งค่า
6. จะขึ้นกล่อง Switch Settings โดยมีเมนูให้เลือกดังนี้
- TITLE คือ ชื่อของ Widget Switch
- Datastream คือ ให้เลือกชนิด Datastream ที่ต้องการ ซึ่งในบทความนี้ให้เลือก Virtual Pin
7. จะขึ้นกล่อง Virtual Pin Datastream โดยมีรายละเอียดให้กรอกดังนี้
- NAME และ AlIAS คือ ตั้งชื่อตามต้องการ
- PIN คือ กำหนด Virtual Pin Number (ควรกำหนดให้ตรงขา I/O บนอุปกรณ์ควบคุม)
- DATA TYPE คือ ชนิดของข้อมูลที่ต้องการส่ง
- UNIT คือ ให้เลือกชื่อหน่วยของข้อมูล
ในบทความนี้ให้ตั้งค่าตามที่กำหนด แล้วกดปุ่ม Save
8. ต่อมาให้เลือกและลาก Widget LED มาวางบน Dashboard
9. นำเมาส์ไปวางบน Widget LED บน Dashboard แล้วเลือก Icon ฟันเฟืองที่อยู่ตรงกลาง เพื่อเข้าไปตั้งค่า
10. จะขึ้นกล่อง LED Settings โดยมีเมนูให้เลือกดังนี้
- TITLE คือ ชื่อของ Widget LED
- Datastream คือ ให้เลือก Datastream Virtual Pin ที่เราได้สร้างไว้ตามที่ต้องการ
- COLOR คือ เลือกสีตามต้องการ
ในบทความนี้ให้ตั้งค่าตามที่กำหนด แล้วกดปุ่ม Save
11. ต่อมาให้เลือกและลาก Widget Gauge มาวางบน Dashboard
12. นำเมาส์ไปวางบน Widget Gauge บน Dashboard แล้วเลือก Icon ฟันเฟืองที่อยู่ตรงกลาง เพื่อเข้าไปตั้งค่า
13. จะขึ้นกล่อง LED Settings โดยมีเมนูให้เลือกดังนี้
- TITLE คือ ชื่อของ Widget LED
- Datastream คือ ให้เลือก Datastream Virtual Pin ที่เราได้สร้างไว้ และ Create Datastream คือ สร้างขึ้นมาใหม่
โดยในบทความนี้ให้เลือก Create Datastream และเลือกชนิด Virtual Pin
14. จะขึ้นกล่อง Virtual Pin Datastream โดยมีรายละเอียดให้กรอกดังนี้
- NAME และ AlIAS คือ ตั้งชื่อตามต้องการ
- PIN คือ กำหนด Virtual Pin Number (ควรกำหนดให้ตรงขา I/O บนอุปกรณ์ควบคุม)
- DATA TYPE คือ ชนิดของข้อมูลที่ต้องการส่ง
- UNIT คือ ให้เลือกชื่อหน่วยของข้อมูล
- MIN คือ กำหนดค่าน้อยสุด
- MAX คือ กำหนดค่ามากสุด
- DEFAULT VALUE คือ กำหนดค่าเริ่มต้น
เมื่อตั้งค่าเสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่ม Create
15. ให้เลือกเปิด Override Datastream’s Min/Max fields และหากต้องการเปลี่ยนค่า MIN MAX ก็สามารถเปลี่ยนได้
และสามารถกำหนดสีที่ปุ่มสีได้ โดยจะแสดง Widget Gauge ตัวอย่างที่ได้ตั้งค่าทางด้านขวา
16. เมื่อสร้าง Widget บน Dashboard ตามที่ต้องการเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม Save and Apply ที่มุมขวาด้านบน
17. จะสังเกตุวเห็นว่าช่องบน Dashboard หายไปและพร้อมแสดงข้อมูลเมื่อเชื่อมต่อกับอุปกรร์ควบคุมสำเร็จ