เนื้อหายังไม่ครบสมบูรณ์ อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้ครับ....
เนื้อหายังไม่ครบสมบูรณ์ อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้ครับ....
เนื้อหายังไม่ครบสมบูรณ์ อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบ แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้ครับ....
1 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 (ค.ศ. 1997) สหราชอาณาจักรส่งมอบอธิปไตยของฮ่องกง คืนให้ประเทศจีน หลังอังกฤษปกครองนานกว่า 150 ปี ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ก่อให้เกิดทั้งความหวังและความไม่แน่นอน ก่อนอื่นขอเท้าความกลับไปหลังจากจีนพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น ปลายศตวรรษที่ 19 สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) ได้สิทธิเช่าฮ่องกงทั้งหมดเป็นเวลา 99 ปี โดยกำหนดวันหมดสัญญาคือ วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2540 และทำพิธีส่งคืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีนเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2540 เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เคยมีการเจรจาระหว่างอังกฤษโดย นางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น กับ นายเติ้ง เสี่ยวผิง ผู้นำฝ่ายจีน เพื่อเจรจาขอเช่าเกาะฮ่องกงต่อ แต่ได้รับการปฏิเสธ และในปีเดียวกันนั้น วันที่ 26 กันยายน ผู้นำทั้งสองก็เจรจากันอีกครั้งและลงนามในสัญญาโดยมีสาระสำคัญว่า อังกฤษจะยอมส่งมอบคืนเกาะฮ่องกงให้กับจีน และจีนได้ให้สัญญาว่าจะยอมให้ฮ่องกงอยู่ในฐานะ ‘เขตปกครองตนเอง’ ล่าสุด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้ลงนามในกฎหมายฉบับดังกล่าวที่จะนำไปใส่ไว้ในธรรมนูญการปกครองของฮ่องกง หรือ ที่มีชื่อเป็นทางการว่า กฎหมายพื้นฐาน (Basic Law) โดยมีใจความสำคัญที่กำหนดให้การปลุกระดมมวลชนเพื่อต่อต้านรัฐบาลเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และจะเปิดทางให้ทางการเข้าไปจัดการต่อการชุมนุมประท้วงได้มีประสิทธิภาพขึ้น ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป และองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ
แก่งตะนะเป็นส่วนที่เหลืออยู่ส่วนหนึ่งของหมวดหินภูพาน
แก่งตะนะ อยู่ห่างจาก อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร เป็นแก่งกลางแม่น้ำมูล ซึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขงที่ อ.โขงเจียม
--------------------------------------------------
แก่งตะนะ เกิดจากแม่น้ำมูลไหลมาพบดอนตะนะ แล้วสายน้ำจะแยกเป็นสองสายไหลโอบทั้งสองด้านทำให้เกิดเป็นดอนตะนะ แล้วไหลมารวมกันอีกครั้งไหลลงมาทางแก่งตะนะ ซึ่งมีโขดหินมหึมาเป็นเกาะกลางน้ำขวางอยู่ทำให้เกิดเป็นแก่งตะนะขนาดใหญ่และสวยงาม ลำน้ำมูลเมื่อไหลอ้อมดอนตะนะทั้งสองด้านแล้ว จะไหลลงมาทางแก่งตะนะ กลางแก่งตะนะมีโขดหินมหึมาเป็นเกาะกลางลำน้ำมูล จากทั้งสองที่เชี่ยวกรากจะกัดเซาะลงในแนวโขดหินสูงราว 1 เมตร บ้างก็ไหลซอกซอนไปตามร่องหินและลานหินริมฝั่งมูล ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคมเพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือ บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำอีกหลายแห่ง จึงทำให้ปลาบริเวณแก่งตะนะชุกชุม
--------------------------------------------------
ดอนตะนะเป็นส่วนที่เหลืออยู่ส่วนหนึ่งของหมวดหินภูพาน เกิดจากการกัดเซาะลึกของแม่น้ำมูล เพราะแผ่นดินบริเวณนี้เคยถูกยกให้สูงขึ้น การกัดเซาะลึกของแม่น้ำจึงทำให้ได้หน้าผาหินลึกชันลงไปสู่ทางน้ำเช่นเดียวกับบริเวณแก่งตะนะ ชั้นหินทรายแข็งของหมวดหินภูพานยังรองรับลำน้ำมูลบริเวณดอนตะนะอยู่ ในฤดูน้ำหลากชั้นหินเหล่านี้จึงโผล่หรือเกือบโผล่ในหลายๆ ตำแหน่งในลำน้ำ ทำให้กระแสน้ำในลำน้ำมูลต้องไหลข้ามชั้นหินเหล่านี้ จนเกิดเป็นแก่ง และน้ำตกเล็กๆ ที่สวยงามบริเวณปากมูล