หลักการและเหตุผล

ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ได้กำหนดยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ที่เน้นทั้งการแก้ไขปัญหาการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในปัจจุบันและการเสริมสร้างและยกระดับการพัฒนาที่ให้ความสำคัญที่ครอบคลุมทั้งในส่วนของการพัฒนาทุนมนุษย์และปัจจัยและสภาพแวดล้อมที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างครอบคลุม ประกอบด้วย การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ควบคู่กับการปฏิรูปที่สำคัญทั้งในส่วนของการปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม เพื่อให้คนมีความดีอยู่ใน ‘วิถี’ การดำเนินชีวิตและมีจิตสำนึกร่วมในการสร้างสังคมที่น่าอยู่ และมีการปฏิรูปการเรียนรู้แบบพลิกโฉม ในทุกระดับตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการพัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ.2560-2564 ได้น้อมนำหลัก “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นปรัชญานำทางในการพัฒนาประเทศอย่างต่อเนื่องจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9-11 โดยกำหนดยุทธศาสตร์ที่ 1 การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ มีเป้าหมายให้สถาบันทางสังคมมีความเข้มแข็งและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถาบันทางศาสนา ชุมชน สื่อมวลชน และภาคเอกชน ของประเทศ ซึ่งแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ มีเป้าหมาย ผู้เรียนมีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมืองไทย และทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีตัวชี้วัดที่สำคัญ เช่น ผู้เรียนที่มีคุณลักษณะและทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เพิ่มขึ้น ผู้เรียนทุกระดับการศึกษามีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความมีวินัย และมีจิตสาธารณะเพิ่มขึ้น สถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นหรือเทียบเท่าขึ้นไปที่จัดกิจกรรมสะท้อนการสร้างวินัย จิตสาธารณะ และคุณลักษณะที่พึงประสงค์เพิ่มขึ้น ประกอบกับมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2561 ได้กำหนดคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานที่ 1 ข้อ 1.1 ผลสัมฤทธิ์ทางวิชาการของผู้เรียน 1) มีความสามารถในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณ จะเห็นได้ว่า ทักษะกระบวนการต่างๆ มีความสำคัญต่อการฝึกให้ผู้เรียนสามารถคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ปัญหา สามารถแสวงหาและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง และเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชน สามารถอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาผู้เรียนซึ่งเป็นเยาวชนของชาติให้มีคุณภาพสู่สังคมในโลกปัจจุบัน

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โรงเรียนศรีวิชัยวิทยา จึงมีความมุ่งมั่นจะพัฒนาให้ผู้เรียนสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวการณ์ปัจจุบันได้ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้มีความหลากหลาย เหมาะสมและสนองความต้องการของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถแสวงหาหรือสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง มีความคิดสร้างสรรค์ เกิดทักษะการคิดวิเคราะห์ สามารถแก้ปัญหา รวมถึงสามารถเผยแพร่ความรู้สู่ชุมชนของตนเอง จากการดำเนินกิจกรรม “นิทรรศการเนื่องในสัปดาห์ส่งเสริมสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”

วัตถุประสงค์

2.1 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจและสามารถอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงวิชาการ

2.2 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร การคิดคำนวณและสามารถน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา

เป้าหมาย

3.1. เป้าหมายเชิงปริมาณ

คณะผู้บริหาร คณะครู และนักเรียนโรงเรียนศรีวิชัยวิทยา และประชาชนทั่วไป รวม 100 คน

3.2. เป้าหมายเชิงคุณภาพ

3.2.1 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจและสามารถอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงวิชาการ ร้อยละ 80 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย

3.2.2 เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะในการอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการคิดคำนวณและสามารถน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นหลักในการดำเนินชีวิตได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของสถานศึกษา ร้อยละ 80 ของจำนวนกลุ่มเป้าหมาย

วิทยากร

นางสาวชโลทร แสงส่องฟ้า

นายวิศระ เชียงหว่อง

นางสาวนัทธมน ช้างทอง

นายสมศักดิ์ ศักดิ์เสงี่ยม

นางสาวภิญญดา สิงห์อุดม

นางสาวพรชนก เรืองขจร

นายภัสร์จิรกิตติ์ ดวงจันทร์