นายสมชาย แสนทรงศักดิ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา คณิตศาสตร์ ชั้น ม.6
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้น ม. 6/11
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 15 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน 6 ระดับชั้น ม. 6 จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม 6 ระดับชั้น ม.6 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม. 6/11 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรม เนตรนารี ระดับชั้นม.2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม วิชาการ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 9 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 32 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน xx ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ระดับชั้น ม.6 จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ระดับชั้น ม.6 จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม. 6/xx จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมเนตรนารี ระดับชั้นม.2 จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม วิชาการ จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน x ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง xx ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
หลักสูตรสถานศึกษา
ที่มา : academic.strisuksa.ac.th > หลักสูตรสถานศึกษา 🌐 ลิงก์เว็บไซต์
หลักสูตรวิชาคณิตศาสตร์ พ.ศ.2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พ.ศ.2551(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2560) โรงเรียนสตรีศึกษา
แผนการสอน
วิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน 6
ปีการศึกษา 2567
บฟ 5
เทอม 2 ปีการศึกษา 2567
วิเคราห์ข้อสอบคณิตศาสตร์ ม.6
เทอม 2 ปีการศึกษา 2567
รายงานประเมินตนเอง
เทอม 2 ปีการศึกษา 2567
บรรยากาศในการเรียนการสอน
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
ข้อมูลสารสนเทศนักเรียนและระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ม.6/11
ปีการศึกษา 2567
ประชุมผู้ปกครอง นักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6/11
ปีการศึกษา 2567
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
ปรับระดับใบประกอบวิชาชีพครู เป็น
ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูขั้นสูง 2567
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
เนื่องจากการจัดกิจกรรมการสอนนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนสตรีศึกษา พบว่า นักเรียนขาดทักษะและความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ขาดความมั่นใจในการคิดแก้ปัญหาใกล้ตัวที่เกิดขึ้น ไม่มีทักษะการคิดวิเคราะห์ แยกแยะโจทย์ปัญหาได้ และการจัดการเรียนการสอนที่ผ่านมา สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโคน่า ๒๐๑๙ (Covid-๑๙) ส่งผลให้การจัดการเรียนการสอนของครู ประสบปัญหาในการจัดการเรียนรู้ ขาดสื่อการเรียนการสอนที่ส่งเสริมสมรรถนะของนักเรียน และนักเรียนได้รับการเรียนรู้ไม่เต็มศักยภาพ ซึ่งความท้าทายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ผู้เรียนมีทักษะ(skills) และความสารารถ(ability) ตามเป้าหมายของโรงเรียน ให้เป็นไปตาม STR-GREAT Model จากการศึกษาสภาพปัญหา ความต้องการ เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนดังกล่าว ผู้สอนจึงได้เห็นจำเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหา ทางคณิตศาสตร์ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
การวางแผน (Plan)
๑. ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศึกราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง
พุทธศึกราช ๒๕๖๐ และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสตรีศึกษา เพื่อออกแบบหน่วยการเรียนรู้ตามตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
๒. ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูล แนวคิด และทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการเรียนรู้
แบบเชิงรุก Active Learning เพื่อให้เกิดทักษะและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
๓. จัดทำหน่วยและแผนการจัดการเรียนรู้
๔. ออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning เพื่อให้เกิดทักษะและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
๕. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อตรวจสอบคุณภาพ รายละเอียด ความถูกต้องของเครื่องมือ ประกอบด้วย หน่วยการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ปรับปรุง พัฒนา ตามข้อเสนอแนะจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC)
การปฏิบัติ(DO)
นำหน่วยการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรีนรู้ รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทและสถานการณ์ในปัจจุบัน กิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning เลือกวิธีการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) มี ๖ ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ ๑ กำหนดปัญหา ผู้สอนสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นผู้เรียน โดยใช้สถานการณ์
ปัญหาใกล้ตัว กรณีปัญหาในชีวิตประจำวัน มีความเชื่อมโยงกับคณิตศาสตร์ เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและมองเห็นปัญหา มีโอกาสเลือกเฟ้นและเสนอปัญหาที่หลากหลาย และสามารถแบ่งกลุ่มตามความสนใจ ซึ่งก่อนที่จะกำหนดปัญหานั้น ครูผู้สอนได้ทดสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียนทุกคนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ กำหนดปัญหาที่เหมาะสมกับความรู้พื้นฐานของนักเรียน
ขั้นที่ ๒ ทำความเข้าใจกับปัญหา ผู้สอนกระตุ้นผู้เรียนด้วยคำถามหรือการเสริมแรง เพื่อให้ ผู้เรียนทำความเข้าใจกับปัญหาที่อยากรู้ โดยเน้นให้เกิดการระดมสมอง เพื่อหาแนวทางและวิธีการในการหาคำตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยดูแลตรวจสอบเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งสถานการณ์ปัญหาที่ค้นพบเป็นสถานการณ์ปัญหาใน ชีวิตประจำวัน หรือในท้องถิ่นของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนทำความเข้าใจได้ง่าย ระดมความคิดในการนำเทคโนโลยี มาช่วยในการแก้ไขปัญหา
ขั้นที่ ๓ ดำเนินการศึกษาค้นคว้า ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าร่วมกันอย่างเป็นระบบ มีการกำหนด กติกา วางเป้าหมาย และดำเนินกิจกรรมตามระยะเวลาที่กำหนด โดยมีครูผู้สอนคอยให้คำชี้แนะและอำนวยความ สะดวกตลอดการดำเนินกิจกรรม
ขั้นที่ ๔ สังเคราะห์ความรู้ ผู้เรียนแต่ละคนสังเคราะห์ความรู้ที่ได้จากการค้นคว้า โดยมีการ
นำเสนอกันภายในกลุ่ม เพื่อหาข้อสรุป ทบทวนและตรวจสอบความถูกต้อง โดยมีครูผู้สอนถามคำถามโดยกระตุ้นให้ ผู้เรียนมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเกิดความคิดรวบยอด
ขั้นที่ ๕ สรุปและประเมินค่าของคำตอบ ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำข้อสรุปที่ได้มาสร้างเป็นองค์ ความรู้ใหม่ และเลือกวิธีที่จะนำเสนอสู่ภายนอก โดยผ่านความเห็นชอบจากครูผู้สอนในการตรวจสอบความถูกต้อง และความเหมาะสมในการนำเสนอ
ขั้นที่ ๖ นำเสนอและประเมินผลงาน ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำองค์ความรู้ที่ได้ไปนำเสนอตาม
วิธีการที่ได้กำหนดไว้ เพื่อเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ โดยครูผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้จากการดำเนินงานของ ผู้เรียนตามสภาพจริง
การตรวจสอบ (Check)
๑. ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ประชุมปรึกษาหารือ (PLC) นิเทศและเข้าไปสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในเนื้อหา การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) เพื่อพัฒนาทักษะและ คิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ พร้อมทั้งเสนอแนะ และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมเพื่อนำมา ปรับปรุง แก้ไขให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดแก้ปัญหาเหมาะสมกับบริบทของห้องเรียน ผู้เรียน และโรงเรียน
๒. นักเรียนทำแบบทดสอบ วัดประเมินผล จากการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) รายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
๓. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจาการจัดเรียนรู้โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) จัดเก็นเป็นระบบ สารสนสนเทศประจำวิชา
๔. วิเคราะห์ทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ รายวิชาคณิตศาสตร์
ที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ
การปรับปรุงแก้ไข (Act)
๑. ปรับปรุงแก้ไขกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) เพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖
๒. นำประเด็นดังกล่าวร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (PLC)
เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางการพัฒนาตามประเด็น นำผล สะท้อนในการใช้บันทึกข้อมูลผลการพัฒนา ทักษะการคิดแก้ปัญหา คะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อ ประเมินการเรียนรู้ นำข้อมูล ที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ STR-GREAT Model
๓.. รวบรวมข้อมูลของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) เพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ เพื่อนำมาวิเคราะห์และ และปรับปรุงแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ
๔. นำผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) ของกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและหาแนวทางการพัฒนาร่วมกัน
๓.๑.๑ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนสตรีศึกษา ร้อยละ ๗๕ ที่เรียนในวิชาคณิตศาสตร์ มีผลการพัฒนาการทักษะการคิดแก้ปัญหา สูงขึ้น
๓.๑.๒ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ร้อยละ ๗๕ มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning)
3. ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
๓.๑.๑ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนสตรีศึกษา ร้อยละ ๗๕ ที่เรียนในวิชาคณิตศาสตร์ มีผลการพัฒนาการทักษะการคิดแก้ปัญหา สูงขึ้น
๓.๑.๒ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ร้อยละ ๗๕ มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning)
3.2 เชิงคุณภาพ
๓.๒.๑ นักเรียนมีทักษะการคิดแก้ปัญหาสูงขึ้น สอดคล้องกับนวัตกรรมการบริหารและการจัดการ STR-GREAT Model
๓.๒.๒ กิจกรรมการเรียนรู้แบบเชิงรุก Active Learning โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) มีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ตัวชี้วัด ตามหลักสูตรสถานศึกษา