ชื่อ-สกุล นางปานรดา บัญหนองสา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา ฟิสิกส์ ชั้น ม. 4 และวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ม.3
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้น ม. 3/10
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน......19....ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา ..ฟิสิกส์.... ระดับชั้น ม..4/7 จำนวน......4...... ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ฟิสิกส์ ระดับชั้น ม. 4/13 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ระดับชั้น ม.3/10-3/12 จำนวน 6 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาโครงวิทยาศาสตร์2 ม.5/13-5/15 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.4/13 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม.2/11 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุมวิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 30 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 22 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชาฟิสิกส์ ระดับชั้น ม.4/7 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาฟิสิกส์ ระดับช้ัน ม.4/14 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ม.3/10 - 3/13 จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาสืบเสาะ ม.4/14 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์1 ระดับชั้น ม.5/13-5/15 จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.3/10 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมผู้บำเพ็ญประโยชน์ ระดับชั้นม.2/11 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุมวิทยาศาสตร์สร้างสรรค์ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน. 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 38 ชั่วโมง/สัปดาห์
แบบประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
ด้านการจัดการเรียนรู้
การส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้
การพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
หลักสูตรสถานศึกษา
กิจกรรมการทดลอง
เรียนรู้แบบทดลอง
กิจกรรมการสอนนักเรียนมีส่วนร่วม
กิจกรรมไหว้ครู
ที่มา : academic.strisuksa.ac.th > หลักสูตรสถานศึกษา 🌐 ลิงก์เว็บไซต์
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
เยี่ยมบ้านนักเรียนที่ปรึกษา ม.3/10
ประชุมผู้ปกครอง
ประชุมเครือข่ายผู้ปกครองห้อง ม.3/10
กิจกรรมวันวิทยาศาสตร์
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
3.3 นำความรู้ ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนและการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
โครงการวิจัยสื่อการเรียนการสอนรูปแบบใหม่
วิพากษ์โครงงานฟิสิกส์
การอบรมเชิงปฏิบัติการการสร้างเว็บไซต์ด้วย Google Site
การประชุมวิชาการ
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่องการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดคำนวณของผู้เรียนรายวิชาฟิสิกส์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง สมดุลกล โดยใช้รูปแบบการสอนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
สภาพปัจจุบันที่มีการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นด้านอุตสาหกรรม ด้านการแพทย์ ด้านการสื่อสาร โทรคมนาคม รวมถึงด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ล้วนแล้วต้องใช้องค์ความรู้สำคัญทางด้านวิชาฟิสิกส์เป็นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญจึงได้กำหนดให้วิชาฟิสิกส์เป็นวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลายโดยกำหนดให้เป็นวิชาเลือกและวิชาบังคับ รายวิชาฟิสิกส์นั้นมีเนื้อหาที่หลากหลาย การจัดการเรียนการสอนในรายวิชาฟิสิกส์นั้นครูผู้สอนควรให้ผู้เรียนได้ศึกษาโดยการทดลองและลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ความเข้าใจในหลักการของวิชาฟิสิกส์ได้ถูกต้อง
การเรียนรู้ในวิชาฟิสิกส์เป็นการใช้วิธีอธิบายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติโดยผ่านการทดลองควบคู่กันไป เพื่อสรุปเป็นกฎ ทฤษฎี ออกมาเป็นสมการอธิบายความสัมพันธ์ซึ่งเกี่ยวพันกับการแก้โจทย์ปัญหานั้นต้องใช้การคิดคำนวณเป็นหลัก ปัญหาที่พบคือนักเรียนไม่สามารถเชื่อมโยงความรู้ในภาคทฤษฎีและภาคคำนวณของวิชาฟิสิกส์ ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ยังทำให้ผู้เรียนขาดทักษะและกระบวนการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ซึ่งเป็นความคิดในระดับที่สามารถคิดวิเคราะห์และสังเคราะห์องค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับความสนใจ และความถนัดของผู้เรียน เพื่อส่งเสริมให้เกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และการคิดคำนวณ จึงควรเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง โดยการลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ได้ฝึกการคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
เพื่อเป็นการได้ตระหนักและเห็นคุณค่าในการเรียนวิชาฟิสิกส์ ข้าพเจ้าจึงสนใจที่จะพัฒนารูปแบบของการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยการใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ต่างๆ ได้แก่ การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry) การเรียนรู้แบบโครงงาน (Project Based Learning) การเรียนรู้จากการปฏิบัติ ข้าพเจ้ามีความคาดหวังว่ากระบวนการดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพของการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาฟิสิกส์ ให้ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เกิดการคิดคำนวณ ส่งผลให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
ในการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดคำนวณของผู้เรียน รายวิชาฟิสิกส์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง สมดุลกล โดยใช้รูปแบบการสอนร่วมกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning มีวิธีการดำเนินการดังนี้
2.1 วิเคราะห์รูปแบบนวัตกรรมร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
2.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูแบบการสอนโดยดำเนินการปรับแผนการจัดการเรียนรู้ ปรับหน่วยการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับนวัตกรรม
2.3 สร้างและพัฒนาสื่อการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับนวัตกรรม
2.4 ทดสอบและประเมินผู้เรียนก่อนการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมที่ผู้สอนสร้างขึ้น
2.5 นำนวัตกรรมไปใช้ในการจัดการเรียนรู้
2.6 ทดสอบและประเมินผู้เรียนหลังการเรียนรู้ด้วยนวัตกรรมที่ผู้สอนสร้างขึ้น
2.7 รายงานผลการพัฒนานวัตกรรมด้วยกระบวนการระเบียบวิธีวิจัย
2.8 เผยแพร่ผลงานนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนรู้
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
- ร้อยละ 80 ของผู้เรียนที่มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดคำนวณ ภายหลังการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง โดยใช้รูปแบบการสอนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- ร้อยละ 80 ของผู้เรียนที่มีระดับความพึงพอใจในระดับดีขึ้นไปภายหลังการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง โดยใช้รูปแบบการสอนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning
- ร้อยละ 80 ของผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภายหลังการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์ เรื่อง การเคลื่อนที่แนวตรง โดยใช้รูปแบบการสอนร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3.2 เชิงคุณภาพ
- ผู้เรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดคำนวณตามเป้าหมายที่กำหนด
- ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้รายวิชาฟิสิกส์
- ผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาฟิสิกส์สูงขึ้น