ข้อมูลผู้รับการประเมิน
ชื่อ-สกุล นางสาวศศิธร จุ่นหัวโทน
ตำแหน่ง ครู (ไม่มีวิทยฐานะ)
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนสตรีศึกษา
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา ภาษาอังกฤษ
ระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 2 และ มัธยมศึกษาปีที่ 4
ปฏิบัติหน้าที่ครูที่ปรึกษา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 17 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ระดับชั้น ม. 2 จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ภาษาอังกฤษ 2 ระดับชั้น ม. 4 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรม ลูกเสือ-เนตรนารี ระดับชั้นม.3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 22 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 20 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา ภาษาอังกฤษ 4 ระดับชั้น ม. 4 จำนวน 4 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา ภาษาอังกฤษรอบรู้ 3 ระดับชั้น ม. 5 จำนวน 12 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรม ลูกเสือ-เนตรนารี ระดับชั้นม.3 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
ติว ม.3 จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 2 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 25 ชั่วโมง/สัปดาห์
องค์ประกอบที่ 1 : การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตำแหน่ง (คลิกเพื่อดูรายละเอียดตัวชี้วัด)
ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ของผู้จัดทำข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวัง คือ การปรับประยุกต์ การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังที่สูงกว่าได้)
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารโดยใช้กิจกรรมละครสั้น (Skit) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 โรงเรียนสตรีศึกษา
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
จากการสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 โรงเรียนสตรีศึกษา ที่เรียนวิชาภาษาอังกฤษ 4 (อ22102) ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 ขณะร่วมกิจกรรมในชั้นเรียน พบว่า นักเรียนประสบปัญหาด้านทักษะการพูดภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งๆที่นักเรียนมีความมั่นใจในตนเองและแสดงออก เนื่องจาก การไม่รู้คำศัพท์และรูปประโยคที่ใช้ในการพูด การกลัวออกเสียงคำศัพท์ผิด จึงขาดความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษ พฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ผู้เรียนมีไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวันได้
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
จากสภาพปัญหาดังกล่าว ผู้วิจัยเห็นความจำเป็นในการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักเรียน ซึ่งจากการศึกษาเอกสารงานวิจัยและเอกสารที่เกี่ยวกับการพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร พบว่า การใช้กิจกรรมละครสั้น (Skit) ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร (Communicative Language Teaching - CLT) สามารถพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้เป็นอย่างดี ทำให้นักเรียนสามารถพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง มีความเชื่อมั่นในการอ่านออกเสียง อีกทั้งช่วยให้นักเรียนเกิดความเข้าใจในการเรียนมากยิ่งขึ้น การแสดงบทบาทสมมติตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เป็นเทคนิคการสอนที่มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และแนวทางการจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ทำให้นักเรียนมีโอกาสฝึกฝนภาษาเพื่อการสื่อความหมายในสถานการณ์ต่างๆ ฝึกใช้ความคิดและมีความกล้าในการใช้ภาษา มีวินัยและความรับผิดชอบ ทำให้นักเรียนมีประสบการณ์ในการใช้ทักษะทางภาษาทุกทักษะทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน และสามารถสื่อสารได้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ในชีวิตจริง อีกทั้งได้เรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นทั้งแบบเป็นคู่และเป็นกลุ่ม ทำให้รู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ดังนั้น ผู้พัฒนาจึงสนใจที่จะนำกิจกรรมละครสั้น (Skit) ตามแนวการสอนเพื่อการสื่อสาร มาใช้ในพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 โรงเรียนสตรีศึกษา
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมละครสั้น (Skit) ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร สามารถช่วยเพิ่มผลสัมฤทธิ์ความสามารถด้านทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/9 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คิดเป็นร้อยละ 98
นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมละครสั้น (Skit) ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร ระดับ ดีมาก คิดเป็นร้อยละ 100
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนสามารถออกเสียงคำและประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในการสื่อสารได้ดีขึ้น มีความรู้เกี่ยวกับไวยากรณ์ รู้และสามารถจดจำคำศัพท์ได้มากขึ้น
มีความคล่องแคล่วในการพูดภาษาอังกฤษ มีความเข้าใจและสามารถพูดสื่อสารความต้องการของตนเองได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กิจกรรมการแสดงบทบาทสมมติยังสร้างเจตคติที่ดีต่อการเรียนภาษาอังกฤษ และสร้างความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้แก่ผู้เรียนอีกด้วย
นักเรียนได้รับประสบการณ์เกี่ยวบทบาทในการเป็นผู้แนะแนวทาง และผู้อำนวยความสะดวกต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน
นักเรียนสามารถเรียนรู้การพูดภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีการเชื่อมโยงเรื่องราวของตัวเองลงในบทเรียน แสดงออกให้ใกล้เคียงกับชีวิตประจำวันของตนเอง ครูไม่ปิดกลั้นตัวตนของนักเรียน ทำให้นักเรียนมีความมั่นใจในตนเอง กล้าแสดงออก เห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น และรู้จักการเคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่น ซึ่งการเรียนรู้ลักษณะนี้เป็นการเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญอย่างแท้จริง
สำเนารูปภาพการร่วมกิจกรรม และผลงานที่ภาคภูมิใจ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567