เว็บไซต์แฟ้มผลงานอิเล็กทรอนิกส์ (E-Portfolio) :: ครูวัชรินทร์พร วินทะไชย (PA 2568)
ข้อมูลผู้รับการประเมิน
ชื่อ-สกุล นางสาววัชรินทร์พร วินทะไชย
ตำแหน่ง ครู
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์
โรงเรียนสตรีศึกษา จังหวัดร้อยเอ็ด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาร้อยเอ็ด
สอนรายวิชา คณิตศาสตร์ ชั้น ม.5
ครูที่ปรึกษานักเรียน ชั้น ม.5/2
ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตำแหน่ง
1. ภาระงาน
1. ภาระงาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจำนวน 19 ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้
รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน ระดับชั้น ม.5 จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
รายวิชา คณิตศาสตร์เพิ่มเติม ระดับชั้น ม.5 จำนวน 8 ชั่วโมง/สัปดาห์
ชั่วโมงโฮมรูม นักเรียนที่ปรึกษาชั้น ม.5/2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรม ลูกเสือ-เนตรนารี ระดับชั้นม.2 จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
กิจกรรมชุมนุม A-MATH ม.ต้น จำนวน 1 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 3 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 5 ชั่วโมง/สัปดาห์
1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จำนวน 0 ชั่วโมง/สัปดาห์
รวมจำนวนชั่วโมง 27 ชั่วโมง/สัปดาห์
2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตำแหน่งครู
ด้านที่ 1
ด้านที่ 2
ด้านที่ 3
ด้านที่ 1 : ด้านการจัดการเรียนรู้
(คลิกเพื่อดูรายละเอียด 8 ตัวชี้วัด)
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
1.2 ออกแบบการจัดการเรียนรู้
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา การเรียนรู้
1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
1.1 สร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร
ที่มา : academic.strisuksa.ac.th > หลักสูตรสถานศึกษา 🌐 ลิงก์เว็บไซต์
1.2 การออกแบบการจัดการเรียนรู้
แผนการจัดการเรียนรู้

รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32101

รายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน ค32102
1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้
วิชาคณิตศาสตร์
วิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ
สอนเสริม A - MATH

1.4 สร้างและหรือพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี และแหล่งเรียนรู้
1.5 วัดและประเมินผลการเรียนรู้
รายงานการวิเคราะห์ข้อสอบ

1.6 ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการเรียนรู้
วิจัยในชั้นเรียน

1.7 จัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน
1.8 อบรมและพัฒนาคุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน
ด้านที่ 2 : ด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้
2.1 จัดทำข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียนและรายวิชา
ทะเบียนข้อมูลนักเรียน

ข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ม.5
2.2 ดำเนินการตามระบบดูแลช่วยเหลือผู้เรียน
ประชุมผู้ปกครอง
เยี่ยมบ้านนักเรียน
2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา

รายงานการเยี่ยมบ้านนักเรียน
งานสภานักเรียน
พนักงานส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา
งานสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนสตรีศึกษา
2.4 ประสานความร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและหรือสถานประกอบการ
เครือข่ายผู้ปกครอง ม.1 - ม.6
กีฬาประเพณีสตรี - รว.
ร่วมงานประเพณีสำคัญ ณ บึงพลาญชัย จังหวัดร้อยเอ็ด
ด้านที่ 3 : ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง
ศึกษาดูงานหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การจัดการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ โรงเรียนปิยะมหาราชาลัย จังหวัดนครพนม
ศึกษาดูงานการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงาน กังหันลม จังหวัดชัยภูมิ
ศึกษาดูงานสภานักเรียนโรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี
3.2 มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้
กิจกรรม PLC กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
กิจกรรม PLC การจัดการเรียนรู้ รายวิชาการศึกษาค้นคว้าอิสระ
3.3 นำความรู้ความสามารถ ทักษะ ที่ได้จากการพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาการจัดการเรียนรู้
การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้
ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวด IS ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
ครูผู้ฝึกสอนนักเรียนได้รับรางวัล
เหรียญทอง การแข่งขันต่อสมการคณิตศาสตร์ (เอแม็ท) ระดับ ม.1 - ม.3
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน
ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–Based Learning : PBL)
รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
จากการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนขาดทักษะและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาในสถานการณ์ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน นักเรียนขาดความมั่นใจในการคิดแก้ไขปัญหาใกล้ตัวที่เกิดขึ้น ตลอดจนความท้าทายในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ด้านทักษะการคิดแก้ปัญหา และต้องการให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียนวิชาคณิตศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ดังนั้นจากการศึกษาสภาพปัญหา และความต้องการเกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอนดังกล่าว ผู้สอนจึงได้เล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–based Learning : PBL)
รายวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
การวางแผน (Plan)
1. วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2560) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนสตรีศึกษา ในเรื่องของมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดรายวิชาคณิตศาสตร์พื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
2. ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูล แนวคิด และทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem–Based Learning : PBL) ที่ส่งผลต่อทักษะการคิดแก้ปัญหา รายวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
3. ศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์ข้อมูล แนวคิด และทฤษฎีพื้นฐานเกี่ยวกับการจัดทำแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอน
4. จัดทำหน่วยและแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน จำนวน 4 แผน เวลาเรียน 15 ชั่วโมง
5. ออกแบบกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน รายวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
6. แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC) ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์เพื่อตรวจสอบคุณภาพ รายละเอียด ความถูกต้องของเครื่องมือ ประกอบด้วย
หน่วยการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) รายวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปรับปรุง พัฒนา ตามข้อเสนอแนะจากการรวมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (PLC)
การปฏิบัติ(Do)
นำหน่วยการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) ไปจัดกิจกรรมการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยปรับกิจกรรมให้เหมาะสมกับบริบทและสถานการณ์ในปัจจุบัน การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 กำหนดปัญหา ผู้สอนสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นผู้เรียน โดยใช้สถานการณ์ปัญหาใกล้ตัว ปัญหาในชีวิตประจำวันที่มีความเชื่อมโยงกับเนื้อหา การนำเทคโนโลยีแก้ปัญหา เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจและมองเห็นปัญหา มีโอกาสเลือกเฟ้นและเสนอปัญหาที่หลากหลาย และสามารถแบ่งกลุ่มตามความสนใจ ซึ่งก่อนที่จะกำหนดปัญหานั้น ครูผู้สอนได้ทดสอบความรู้พื้นฐานของผู้เรียนทุกคนเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการกำหนดปัญหาที่เหมาะสมกับความรู้พื้นฐานของนักเรียน
ขั้นที่ 2 ทำความเข้าใจกับปัญหา ผู้สอนกระตุ้นผู้เรียนด้วยคำถามหรือการเสริมแรง เพื่อให้ผู้เรียน ทำความเข้าใจกับปัญหาที่อยากรู้ โดยเน้นให้เกิดการระดมสมอง เพื่อหาแนวทางและวิธีการในการหาคำตอบ โดยมีครูผู้สอนคอยดูแลตรวจสอบเพื่อให้เกิดความถูกต้อง ซึ่งสถานการณ์ปัญหาที่ค้นพบเป็นสถานการณ์ปัญหาในชีวิตประจำวัน หรือในท้องถิ่นของนักเรียน เพื่อให้นักเรียนทำความเข้าใจได้ง่าย ระดมความคิดในการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการแก้ไขปัญหา
ขั้นที่ 3 ดำเนินการศึกษาค้นคว้า ให้ผู้เรียนศึกษาค้นคว้าร่วมกันอย่างเป็นระบบ มีการกำหนดกติกา วางเป้าหมาย และดำเนินกิจกรรมตามระยะเวลาที่กำหนด โดยมีครูผู้สอนคอยให้คำชี้แนะและอำนวยความสะดวกตลอดการดำเนินกิจกรรม
ขั้นที่ 4 สังเคราะห์ความรู้ ผู้เรียนแต่ละคนสังเคราะห์ความรู้ที่ได้จากการค้นคว้า โดยมีการนำเสนอกันภายในกลุ่ม เพื่อหาข้อสรุป ทบทวนและตรวจสอบความถูกต้อง โดยมีครูผู้สอนถามคำถามโดยกระตุ้นให้ผู้เรียนมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเกิดความคิดรวบยอด
ขั้นที่ 5 สรุปและประเมินค่าของคำตอบ ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำข้อสรุปที่ได้มาสร้างเป็นองค์ความรู้ใหม่ และเลือกวิธีที่จะนำเสนอสู่ภายนอก โดยผ่านความเห็นชอบจากครูผู้สอนในการตรวจสอบความถูกต้อง และความเหมาะสมในการนำเสนอ
ขั้นที่ 6 นำเสนอและประเมินผลงาน ผู้เรียนแต่ละกลุ่มนำองค์ความรู้ที่ได้ไปนำเสนอตามวิธีการที่ได้กำหนดไว้ เพื่อเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ โดยครูผู้สอนประเมินผลการเรียนรู้จากการดำเนินงานของผู้เรียนตามสภาพจริง
การตรวจสอบ (Check)
1. เปิดห้องเรียนโดยใช้ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เข้าไปสังเกตการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ช่วยกันตรวจสอบความถูกต้องในเนื้อหา การจัดกิจกรรม เครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ การใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) พร้อมทั้งเสนอแนะ และสะท้อนผลการจัดกิจกรรมเพื่อนำมาปรับปรุง แก้ไขให้ผู้เรียนเกิดทักษะการคิดแก้ปัญหาเหมาะสมกับบริบทของห้องเรียน ผู้เรียน และโรงเรียน
2. นักเรียนทำแบบทดสอบ วัดประเมินผล การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาโดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) รายวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
3. บันทึกผลการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาโดยใช้ปัญหา
เป็นฐาน (Problem – Based Learning) แล้วจัดเก็บเป็นระบบสารสนสนเทศประจำวิชา
4. วิเคราะห์ทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียน เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน รายวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เกิดขึ้น จากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์และสะท้อนผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบเป็นระยะ
การปรับปรุงแก้ไข (Act)
1. ปรับปรุงแก้ไขกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) เพื่อพัฒนาทักษะการคิด
แก้ปัญหา รายวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
2. นำประเด็นดังกล่าวร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมชมการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทาง
การพัฒนาตามประเด็น นำผลสะท้อนในการใช้บันทึกข้อมูล ผลการพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา คะแนนในระบบสารสนเทศผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อประเมิน การเรียนรู้ และนำข้อมูลที่ได้พัฒนาผลการเรียนรู้ให้ผู้เรียนบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
3. รวบรวมข้อมูลของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้ เพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงแก้ไขในประเด็นต่าง ๆ
4. นำผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน ของนักเรียนที่เกิดขึ้นจากการเรียนรู้
เข้าร่วมชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและหาแนวทางการพัฒนาร่วมกัน
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
3.1.1 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนสตรีศึกษา ร้อยละ 75 มีผลการพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาสูงขึ้น
3.1.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนสตรีศึกษาร้อยละ 75 มีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning)
3.2 เชิงคุณภาพ
3.2.1 นักเรียนมีทักษะการคิดแก้ปัญหาสูงขึ้น สอดคล้องกับการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
3.2.2 แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem – Based Learning) เรื่อง ดอกเบี้ยและมูลค่าของเงิน มีคุณภาพตามมาตรฐาน
การศึกษา ตัวชี้วัด ตามหลักสูตรสถานศึกษา