ผ้าไหมไทย ซึ่งเป็นมรดกทางภูมิปัญญาพื้นบ้านที่เคยถูกละเลย กลับมามีชีวิตและทรงคุณค่าอีกครั้งด้วยพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงฟื้นคืนมรดกภูมิปัญญาผ้าไหมไทยที่เคยถูกละเลย ให้กลับมามีชีวิตและทรงคุณค่าอีกครั้ง
สร้างอาชีพและฟื้นฟูภูมิปัญญา
จุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูผ้าไหมไทยเกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 ระหว่างเสด็จฯ เยี่ยมราษฎรที่ประสบอุทกภัยในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ส่งเสริมการทอผ้าไหม เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ราษฎร นำมาสู่การก่อตั้ง มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ซึ่งได้ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยมาจนถึงปัจจุบัน
สู่เวทีโลกและแฟชั่นสากล
พระองค์ทรงเป็นผู้นำในการเผยแพร่ความงดงามของผ้าไทยสู่สากล โดยทรงใช้ผืนผ้าจากภูมิปัญญาชาวบ้านเป็น ฉลองพระองค์อันวิจิตร สร้างความประทับใจในระดับโลก โดยเฉพาะในปี พ.ศ. 2505 ที่ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน สตรีผู้แต่งพระองค์งามที่สุดของโลก ซึ่งทำให้ผ้าไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในตลาดโลกอย่างสง่างาม
ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม: "โครงการป่ารักน้ำ พระราชปณิธานคืนความชุ่มชื้นสู่ผืนดิน"
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงอุทิศพระราชหฤทัยและพระวรกายเพื่องานด้านการพัฒนาการเกษตรและสิ่งแวดล้อม ด้วยทรงเล็งเห็นว่าเป็นรากฐานความมั่นคงของชาติ
สืบสานแนวพระราชดำริ
"ป่ารักน้ำ" ทรงสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่ว่า “ป่ารักน้ำ น้ำก็รักป่า” ก่อเกิดเป็น "โครงการป่ารักน้ำ" เพื่อฟื้นฟูผืนป่าต้นน้ำทั่วประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดชีวิต ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง
หัวใจสำคัญ
"คนอยู่ร่วมกับป่า" ทรงมีพระราชดำริให้ราษฎรมีส่วนร่วมในการปลูกป่าทดแทนและดูแลรักษา โดยเลือกพืชพันธุ์ที่เหมาะสมกับพื้นที่ เช่น ไม้ยืนต้นพื้นถิ่นและพืชสมุนไพร เพื่อให้ "คนอยู่ร่วมกับป่า" ได้อย่างเกื้อกูล เกิดเป็นรายได้จากป่าชุมชนอย่างยั่งยืน เมื่อคนได้รับประโยชน์จากป่า คนก็จะช่วยกันรักษาป่า
ปลูกจิตสำนึกสู่ความยั่งยืน
โครงการนี้ไม่เพียงช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ แต่ยังปลูกฝังจิตสำนึกแห่งความรักธรรมชาติให้แก่ประชาชน เปรียบดังการ "ปลูกป่าในใจคน" ให้เติบโตเป็นร่มเงาแห่งความยั่งยืน เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการรักษ์ผืนป่าของแผ่นดินสืบไป
สาธารณสุข: "หน่วยแพทย์พระราชทาน น้ำพระทัยบำบัดทุกข์"
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา ทุกครั้งที่เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรและทรงพบผู้ป่วยเจ็บ ทรงมีพระราชหฤทัยห่วงใยและทรงหาทางช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
กำเนิด "หน่วยแพทย์พระราชทาน"
เมื่อเสด็จฯ เยี่ยมราษฎร ทรงพบว่ามีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่แพทย์ที่ตามเสด็จมีเวลาจำกัด จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง "หน่วยแพทย์พระราชทาน" ขึ้น เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ห่างไกลทุรกันดารโดยเฉพาะ ทั้งทางรถยนต์และเฮลิคอปเตอร์ เพื่อให้ประชาชนผู้ยากไร้ได้รับการตรวจรักษาอย่างทั่วถึง
ความห่วงใย "ดุจญาติ"
ทรงแก้ปัญหาแพทย์ตรวจไม่ทัน โดยโปรดเกล้าฯ ให้ทีมแพทย์เดินทางไปล่วงหน้าก่อนเวลาเสด็จฯ และสำหรับคนไข้ที่อาการหนักที่ทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และส่งตัวมารักษาที่กรุงเทพฯ ทรงเป็นห่วงอย่างยิ่ง ทรงจดจำอาการ และโปรดเกล้าฯ ให้ นางสนองพระโอษฐ์และอาสาสมัครไปเยี่ยมเยียนทุกวัน โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้ทำตัว "ประดุจญาติ" เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและบรรเทาทุกข์ของพวกเขา