สพฐ.แจ้งการป้องกันการกระทําผิดวินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการอบรมออนไลน์

ว316-ป้องกันการกระทำผิดวินัย-อบรมออนไลน์.pdf

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2564 สพฐ.ได้มีหนังสือเวียนถึง ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต เรื่อง การป้องกันการกระทําผิดวินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในการอบรมออนไลน์ ดังรายละเอียดดังนี้ 

ตามที่ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กําหนดให้มีโครงการพัฒนาบุคลากร หลักสูตร “การเสริมสร้างความเข้มแข็งในการจัดทําจัดเก็บข้อมูลสารสนเทศด้านการจบการศึกษา และการให้บริการข้อมูลทางการศึกษาสําหรับสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา” ประกอบด้วย

หน่วยที่ ๑ การประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา

หน่วยที่ ๒ การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

หน่วยที่ ๓ แนวปฏิบัติการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑

หน่วยที่ ๔ การจัดทําจัดเก็บ เอกสารหลักฐานการศึกษาและการให้บริการข้อมูลทางการศึกษา 

หน่วยที่ ๕ การพัฒนางานวิชาการของ สถานศึกษาด้วยกระบวนการวิจัย และ 

หน่วยที่ การพัฒนาส่งเสริมและเตรียมความพร้อมนักเรียน สําหรับ การประเมินระดับนานาชาติ 

ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e- (earning) เมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ ผู้ที่ผ่านการอบรมหลักสูตรดังกล่าวสามารถนําผลการพัฒนามานับชั่วโมงการพัฒนาเพื่อประกอบการขอมี/เลื่อนวิทยฐานะ ตามเกณฑ์ ที่ ก.ค.ศ. กําหนด ตามประกาศสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๓ รหัสหลักสูตรที่ ๖๒๑๒๑ นั้น 

สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับแจ้งจากผู้เข้ารับการอบรมว่า มีข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษากลุ่มหนึ่ง ให้บริการรับจ้างเข้ารับการอบรมออนไลน์หลักสูตรดังกล่าว และเรียกเก็บ ค่าว่าจ้าง ผ่านการโฆษณาเชิญชวนบนสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook เป็นต้น ซึ่งจากการสืบค้นข้อมูล พบว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นความจริง โดยมีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร ดังกล่าวแล้ว และได้กระทําการรับจ้างเข้ารับการอบรมดังกล่าวในรูปแบบออนไลน์แทนผู้อื่นและเรียกเก็บ ค่าว่าจ้างซึ่งเป็นการกระทําผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ และตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกัน ยับยั้งมิให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทําผิดวินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีจ้างวาน ใช้ผู้อื่นและหรือรับจ้างเข้ารับการอบรม ซื้อขายและหรือ เผยแพร่เฉลยแบบทดสอบของการอบรมทั้งที่แสวงหาผลกําไรและไม่แสวงหาผลกําไร จ้างวาน ใช้ผู้อื่นและหรือรับจัดทําผลงานทางวิชาการของการอบรมออนไลน์ ซึ่งเป็นความผิดต่อมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๗ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน จึงขอให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต แจ้งย้ําเตือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทราบ เรื่อง การป้องกันการกระทําผิดวินัยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาดังกล่าว ให้สถานศึกษาในสังกัดทราบ ดังนี้ 

๑. มาตรา ๘๔ ความว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาคและเที่ยงธรรม มีความวิริยะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชน์ของทางราชการ และต้องปฏิบัติตนตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชีพอย่างเคร่งครัด

ห้ามมิให้อาศัยหรือยอมให้ผู้อื่นอาศัยอํานาจและหน้าที่ราชการของตน ไม่ว่าจะโดยทางตรง หรือทางอ้อม หาประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น

การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่น ได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

๒. มาตรา ๙๓ ความว่า ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่คัดลอกหรือ ลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือนําเอาผลงานทางวิชาการของผู้อื่น หรือจ้างวาน ใช้ผู้อื่นทําผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ในการเสนอขอปรับปรุงการกําหนดตําแหน่ง การเลื่อนตําแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะหรือการให้ได้รับเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้น การฝ่าฝืนหลักการดังกล่าวนี้ เป็นความผิดวินัย อย่างร้ายแรง

ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ร่วมดําเนินการคัดลอกหรือลอกเลียนผลงาน ของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือรับจัดทําผลงานวิชาการไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ เพื่อให้ผู้อื่นนําผลงานนั้นไปใช้ ประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคหนึ่ง เป็นความผิดวินัยอย่างร้ายแรง

จึงเรียนมาเพื่อทราบ และดําเนินการต่อไป

  Cr  : kruachieve

  Reference  :  .pdf