ปัญหาขยะ
ปัญหาขยะ
ปัญหาขยะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากการอุปโภค บริโภคและเกิดจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ โดยตัวแปรสำคัญที่สุดที่ทำให้ปัญหาขยะมีจำนวนมากขึ้นคือการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรของมนุษย์ ขยะที่มนุษย์สร้างขึ้นทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมาอย่างมากมาย เช่น ทำให้เกิดปัญหาฝนกรดและปัญหาโลกร้อน เป็นต้น
ตัวอย่างปัญหาที่ตามมาหรือเกิดขึ้นภายหลังปัญหาขยะมีดังนี้
1. ปัญหาน้ำเน่าเสียเกิดจากการที่มีน้ำเสียหรือขยะลงไปปะปนอยู่ในแหล่งน้ำ ทำให้ไม่สามารถอุปโภค บริโภคน้ำจากแหล่งน้ำนั้นได้ นอกจากนี้ยังส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นและสัตว์จำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์น้ำทยอยตายอีกด้วย สาเหตุที่ขยะลงไปปะปนอยู่ในแหล่งน้ำมีดังนี้
1.1 น้ำเสียหรือขยะถูกมนุษย์หรือหน่วยงานต่าง ๆ เช่น โรงงาน ปล่อยหรือทิ้งลงในแหล่งน้ำด้วยความตั้งใจ
1.2 น้ำเสียหรือขยะไหลลงไปในแหล่งน้ำจากการที่เกิดอุทกภัย (น้ำท่วม)
1.3 ขยะบางชนิดอาจกลิ้ง ตกหรือถูกลมพัดลงไปในแหน่งน้ำ
2. ปัญหาผลกระทบจากขยะเมื่อมีน้ำท่วมในบริเวณที่อยู่อาศัยของมนุษย์ (น้ำท่วมนอกจากเกิดจากมีพายุรุนแรงหรือฝนตกหนักแล้ว ขยะก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำท่วมขังได้เช่นกันถึงแม้ว่าจะไม่มีพายุรุนแรงเพราะขยะได้ไปขวางทางน้ำไหลหรือไปอุดตันอยู่บริเวณท่อระบายน้ำทำให้เกิดการระบายน้ำไม่ทัน)
2.1 ระหว่างที่น้ำยังขังอยู่ อาจมีขยะที่เป็นอันตราย เช่น มีขยะแหลมคมจมอยู่ใต้น้ำแล้วมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงเดินไปเหยียบหรือชนจนได้รับบาดจบเพราะมองไม่เห็น เป็นต้น นอกจากนี้ยังทำให้มีปัญหามลพิษทางน้ำและมลพิษทางอากาศเกิดขึ้นในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย
2.2 เมื่อน้ำลด ขยะที่ลอยมากับน้ำได้กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดหรือบางส่วนอาจเข้าไปในสิ่งปลูกสร้างของมนุษย์ ทำให้เกิดความสกปรกจึงต้องเสียเวลาในการเก็บกวาดและทำความสะอาด
2.3 มนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงป่วยเป็นโรคต่าง ๆ โดยมีสาเหตุมาจากมลพิษทางน้ำและมลพิษทางอากาศที่ได้รับระหว่างน้ำท่วมขัง แต่ก็มีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงบางส่วนที่ป่วยหลังจากน้ำลดแล้วได้เช่นกัน
3. ปัญหาคราบน้ำมันในแหล่งน้ำที่เกิดจากน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรม เรือหรือมนุษย์ จะลอยอยู่เหนือน้ำและส่งผลให้แก๊สออกซิเจนไม่สามารถละลายในน้ำได้ สิ่งมีชีวิตในน้ำก็จะทยอยล้มตายเพราะขาดออกซิเจน นอกจากนี้การที่มีคราบน้ำมันคลุมผิวน้ำอยู่นั้น ยังส่งผลให้แสงแดดไม่สามารถส่องผ่านลงไปในน้ำได้ ทำให้พืชในน้ำบางชนิดสร้างอาหารไม่ได้และทยอยตาย สัตว์น้ำกินพืชบางชนิดก็ทยอยตายด้วยเพราะขาดอาหาร
4. ปัญหาระเบิดที่เกิดจากการทับถมของขยะบางชนิดเป็นเวลานาน ซึ่งขยะเหล่านั้นอาจทำให้เกิดแก๊สบางชนิดที่อาจส่งผลให้เกิดการติดไฟและเกิดการระเบิดได้ เช่น แก๊สมีเทน แก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด์) เป็นต้น
5. ปัญหาโลกร้อนเกิดจากขยะบางชนิดมีการปล่อยแก๊สเรือนกระจกออกมาจากตัวของมันเองอยู่แล้ว นอกจากนี้วิธีการจัดการขยะที่ไม่เหมาะสม เช่น นำไปกองรวมกัน นำไปเผา นำไปฝัง ล้วนทำให้เกิดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์หรือแก๊สมีเทนซึ่งทั้งสองแก๊สเป็นแก๊สเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อน
6. ปัญหามลพิษในดินสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุซึ่งหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดมลพิษในดิน คือ การฝังกลบขยะ ซึ่งมลพิษในดินนั้นเป็นสาเหตุการตายของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในดินและพืช นอกจากนี้มลพิษในดินยังส่งผลเสียต่อมนุษย์ด้วยเพราะเมื่อมนุษย์นำพืชบางชนิดมาบริโภคแต่พืชเหล่านั้นได้ดูดซับสารเคมีและโลหะหนักเอาไว้ มนุษย์ก็จะได้รับสารเคมีและโลหะหนักเข้าไปสะสมในร่างกายและเมื่อร่างกายมนุษย์ได้สะสมสารเคมีและโลหะหนักจนถึงระดับหนึ่งอาจทำให้เป็นโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น มะเร็ง เป็นต้น
7. ปัญหาสารพิษสะสมในร่างกายจากการบริโภคสัตว์น้ำ เช่น สารปรอทจากการเกษตรกรรม การทำเหมืองแร่และน้ำมันดิบไหลลงทะเล ทำให้สัตว์น้ำต่าง ๆ เช่น ปลา ได้รับสารปรอทเข้าไป ซึ่งโดยปกติปลาทะเลมักจะมีสารปรอทปนเปื้อนอยู่แล้วและเมื่อปลาตัวใหญ่มากินปลาตัวเล็กก็จะทำให้ปลาดังกล่าวมีการสะสมของสารปรอทเพิ่มมากขึ้น อาจกล่าวได้ว่าปลายิ่งอยู่ในน้ำลึกสารปรอทยิ่งมาก ดังนั้นจึงควรปรุงอาหารให้สุกก่อนรับประทาน ไม่ควรรับประทานสุก ๆ ดิบ ๆ เพื่อให้สารปรอทที่อยู่ในปลาระเหยออกไป (ปลาปรุงสุกมีสารปรอทปนเปื้อนน้อยกว่าปลาดิบ นอกจากนี้ปลาที่อายุยืนยังมีการสะสมของสารปรอทมากกว่าปลาอายุสั้นอีกด้วย)
8. ปัญหาสัตว์บางชนิดกินขยะเข้าไปและสัตว์บางชนิดเอาขยะมาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย เช่น สัตว์ป่ากินเศษขยะเข้าไปและเศษขยะเหล่านั้นได้เข้าไปตกค้างในกระเพาะอาหารทำให้มันตาย เต่าทะเลมักจะตายเพราะกินถุงพลาสติกเนื่องจากถุงพลาสติกคล้ายอาหารที่เต่าทะเลกิน (เต่าทะเลเข้าใจผิดว่าถุงพลาสติกเป็นแมงกะพรุน) ปูเสฉวนมีส่วนก้นที่อ่อนแอพวกมันจึงต้องสวมเปลือกหอยไว้ที่ก้นแต่ปัจจุบันปูเสฉวนจำนวนมากได้นำขยะที่มนุษย์ทิ้งมาสวมแทนเปลือกหอย (การที่ปูเสฉวนสวมขยะแทนเปลือกหอยอาจทำให้เกิดผลเสียต่อมันเพราะถ้ามันสวมขยะที่ผิดรูปแล้วเมื่อตัวมันโตขึ้นอาจทำให้มันถอดขยะชิ้นนั้นออกจากก้นไม่ได้)
วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหา
1. ลดอัตราเสี่ยงหรือวิธีการที่อาจจะทำให้เกิดขยะเพิ่มขึ้น เช่น ร้านค้าและห้างงดให้ถุงพลาสติกหรือช้อนพลาสติกแก่ลูกค้าโดยปราศจากความจำเป็น (ทั้งนี้อาจมีการรณรงค์ให้เอาถุง ถุงผ้าหรืออุปกรณ์สำหรับใส่สินค้าที่ซื้อมาเองจากบ้าน)
2. ควรแยกขยะให้เรียบร้อยเพราะขยะบางชนิดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ใช้ซ้ำหรือนำไปรีไซเติลได้
3. พยายามคิดว่าขยะมีประโยชน์อะไรบ้างดีกว่านำไปทำลาย เช่น ผลิตไฟฟ้าจากขยะ ใช้ขยะผลิตเป็นอักษรเบรลล์ให้คนตาบอด
4. หากจำเป็นต้องทำลายขยะควรเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด เช่น หากมีการรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเลแล้วคิดที่จะใช้สารอิมัลซิไฟเออร์กำจัดคราบน้ำมันต้องพิจารณาให้รอบคอบก่อนเพราะอาจทำให้สัตว์น้ำจำนวนมากได้รับสารอิมัลซิไฟเออร์เข้าไปและตายได้ในที่สุด (สารอิมัลซิไฟเออร์ไม่มีอันตรายต่อสัตว์น้ำแต่มันจะเร่งการดูดซึมสารเคมีต่าง ๆ ที่อยู่ในน้ำเข้าสู่ตัวสัตว์ที่ได้รับสารอิมัลซิไฟเออร์เข้าไป)
5. ปลูกฝังให้คนทิ้งขยะเป็นที่เป็นทาง ไม่ทิ้งเกลื่อนกลาด ไม่ทิ้งในป่า ไม่ทิ้งตามแม่น้ำลำคลอง (ทั้งนี้หมายรวมถึงระดับหน่วยงาน บริษัท ห้างร้าน โรงงาน ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนด้วย)
6. ปรับปรุงสินค้าบางชนิดให้ไม่ต้องเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์แต่ทำให้สามารถเติมได้เมื่อใช้หมดในบรรจุภัณฑ์เดิม
7. เครื่องใช้ต่าง ๆ ที่สามารถซ่อมแซมหรือดัดแปลงไปเป็นอย่างอื่นได้ ควรจะทำการซ่อมแซมหรือดัดแปลงแล้วนำไปใช้ ดีกว่าการทำลายหรือทิ้งให้เป็นขยะแล้วไปซื้อใหม่
8. ปลูกฝังให้คนช่วยกันเก็บขยะที่ปลิวไปตกตามที่ต่าง ๆ โดยไม่ต้องอายหรือคิดว่าเป็นหน้าที่ของคนเก็บขยะ
9. ลอกท่อระบายน้ำเป็นประจำเพื่อป้องกันน้ำท่วมซึ่งหากน้ำท่วมสูงอาจทำให้มีขยะลอยออกจากถังขยะ กระจัดการจายไปตามที่ต่าง ๆ หรือลงสู่แหล่งน้ำได้
บทความด้านบนเป็นเพียงตัวอย่างสาเหตุของปัญหาขยะ วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะในปี 2562 เท่านั้น ในอนาคตอาจจะมีสาเหตุของปัญหาขยะ วิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะที่มากมายหลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งหากต้องการให้ปัญหาขยะลดลงนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชนหรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไป