Mining Geostatistics
พันธุ์ลพ หัตถโกศล (Panlop Hattagosol)
พันธุ์ลพ หัตถโกศล (Panlop Hattagosol)
ข้อมูลที่มีค่าขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่อยู่ในภูมิประเทศ เช่น ระดับความสูง ชนิดของหิน คุณภาพของอากาศ ดิน หรือน้ำ เป็นต้น เมื่อเก็บข้อมูลแบบนี้มาสรุปภาพรวมทางสถิติ จะพบว่าวิธีการพื้นฐานทางสถิติทั่วไปไม่มีความสมบูรณ์เพียงพอในการอธิบายลักษณะของข้อมูลได้ครอบคลุมตามที่ต้องการ ทั้งนี้เพราะค่าของข้อมูลเหล่านี้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติ และมีความต่อเนื่องสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันตามทิศทางและระยะห่างจากกัน ทำให้การใช้ทฤษฎีทางสถิติพื้นฐานทั่วไปมาประเมิน จะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในการนำไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง
เป็นทฤษฎีทางคณิตศาสตร์ที่ไม่เพียงแต่สรุปภาพลักษณ์ของตัวแปรจากลักษณะพื้นฐานทางสถิติของข้อมูลเท่านั้น ยังคำนึงถึงขนาดและตำแหน่งในมิติของข้อมูลตัวอย่างที่เก็บมาด้วย โดยมีสมมติฐานว่าค่าของตัวแปรทางธรณีวิทยาจะถูกกำหนดด้วยตำแหน่งของตัวอย่างและขนาดหรือขอบเขตที่แต่ละตัวอย่างมีอิทธิพลต่อกัน
การนำทฤษฎีตัวแปรภูมิภาคมาใช้ ทำให้สามารถวัดระดับความต่อเนื่องของค่าข้อมูล หรือกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรที่มีตำแหน่งได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ด้วยวิธีการพื้นฐานทางสถิติทั่วไป หรือแม้แต่การใช้วิธีเทียบอัตราส่วน (Interpolation) หรือวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend surface) เพื่อประเมินค่าของตัวแปร ก็อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เพราะข้อมูลมีความซับซ้อนทั้งทางกายภาพและคุณภาพที่มีผลจากกำเนิดตามธรรมชาติ
แวริโอแกรมของแหล่งแร่ถ่านหินในภาคเหนือ
การใช้ธรณีสถิติ (Geostatistics) จึงมีความสำคัญเพราะมีความสามารถในการวัดระดับความต่อเนื่องและการกระจายของตัวแปรที่มีค่าเกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่อยู่ และสามารถอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างค่าของตัวแปรได้ด้วยฟังก์ชั่นทางคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า แวริโอแกรม (Variogram) ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่มีสมมติฐานเชิงสถิติว่าคู่ของตัวอย่างใดๆที่อยู่ห่างกันเป็นระยะและทิศทางเท่ากัน จะมีความแตกต่างของค่าข้อมูลคงที่สม่ำเสมอภายในขอบเขตที่กำหนด
วิธีคริกกิ้งเป็นเครื่องมือทางธรณีสถิติในการประเมินค่าของตัวแปร ณ บริเวณที่ต้องการทราบค่า ที่มีปริมาตรเป็นจุด หรือบล็อก โดยอาศัยค่าสังเกตของตัวอย่างที่อยู่รอบๆ วิธีคริกกิ้งเป็นวิธีประเมินเชิงเส้นตรงที่ถูกพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์แล้วว่าเป็นวิธีการที่ไม่ลำเอียง และให้ค่าวาเรียนซ์ของการประเมิน หรือความผิดพลาดในการประเมินต่ำกว่าวิธีอื่นๆโดยสรุปแล้ววิธีคริกกิ้งจะให้สิ่งที่มีประโยชน์ในการประเมินตัวแปรภูมิภาคดังนี้
ให้ค่าประเมินที่มีวาเรียนซ์ของการประเมินต่ำที่สุด
สามารถคำนวณได้ก่อนว่าควรจะเก็บตัวอย่างเพิ่มบริเวณจุดใด เพื่อจะลดวาเรียนซ์ของการประเมิน
ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงขนาดของค่าสังเกต (ขนาดตัวอย่าง) หรือขนาดของบล็อก ที่ต้องการประเมิน จะคำนวณการเปลี่ยนแปลงของวาเรียนซ์ได้
ถ้าทราบขนาดของค่าสังเกต และตำแหน่งหรือระยะห่างระหว่างค่าสังเกต จะทำให้กำหนดขนาดของบล็อกที่ต้องการประเมิน แล้วมีความผิดพลาดของการประเมินอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องการได้
ในการนำธรณีสถิติไปใช้งาน ควรมีจะมีขั้นตอนในการดำเนินงานตามลำดับดังนี้
เก็บตัวอย่างในสนาม เจาะสำรวจ เก็บตำแหน่งพิกัด วิเคราะห์ค่าของตัวอย่าง
ประมวลผลทางสถิติ เช่น วัดการกระจาย สหสัมพันธ์ ความแปรปรวนร่วม
สร้างแวริโอแกรม ซึ่งเป็บแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของตัวแปร
คำนวณประเมินค่าตัวแปรของบริเวณที่ต้องการทราบค่า โดยใช้วิธี Kriging
ประเมินผลการใช้งาน เพื่อคำนวณความผิดพลาดและปรับปรุงแบบจำลอง
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการนำธรณีสถิติไปใช้ในงาน จะแยกออกเป็นสองขั้นตอนหลัก ในขั้นตอนแรกคือ การสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของตัวแปรที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่ง โดยการประมวลผลทางสถิติ ศึกษาโครงสร้างความสัมพันธ์ของตัวแปรโดยอาศัยแวริโอแกรม และในขั้นตอนที่สองคือ การคำนวณค่าของตัวแปร หรือประเมินค่าของจุดที่ต้องการทราบด้วยการใช้ Kriging
วิชาธรณีสถิติเป็นศาสตร์ที่ต้องใช้ทฤษฎีของความน่าจะเป็นเหมือนกับการประยุกต์ใช้สถิติทั่วไปในศาสตร์แขนงอื่นๆ การใช้ธรณีสถิติในการประเมินค่าของตัวแปรนอกจากจะทำให้ทราบถึงปริมาณและการกระจายของคุณภาพแล้ว ยังให้ค่าวาเรียนซ์ของความผิดพลาดในการประเมินซึ่งสามารถนำไปใช้ในวิเคราะห์โครงการที่เกี่ยวข้องกับการเงิน และมีความเสี่ยง จึงทำให้วิชาธรณีสถิติมีความจำเป็นในการนำมาใช้งานมากขึ้น เพราะการบีบบังคับจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และถึงแม้ว่าวิชาธรณีสถิติจะเกิดขึ้นจากการทำเหมืองแร่ แต่ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานทางด้านอื่นๆได้
เอกสารอ้างอิง
พันธุ์ลพ หัตถโกศล ๒๕๔๐ ธรณีสถิติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ๑๑๔ หน้า