🍇กิจกรรมประจำวัน 6 กิจกรรมหลัก
กิจกรรมกลางแจ้ง เป็นกิจกรรมที่พาเด็กๆได้ออกกำลังกายนอกสถานที่ เคลื่อนไหวร่างกายอย่างอิสระตามความสนใจและความสามารถของเด็กๆ เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ให้เคลื่อนไหวร่างกายอย่างคล่องแคล่วว่องไว
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ เด็กๆจะได้เคลื่อนไหวร่างกายตามจังหวะอย่างอิสระโดยใช้เสียงเพลง คำคล้องจอง เพื่อส่งเสริมให้เด็กรู้จังหวะและควบคุมการเคลื่อนไหวของตนเองได้
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ มุ่งเน้นให้เด็กเรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง บุคคลอื่น สถานที่ ธรรมชาติและสิ่งต่างๆรอบตัวผ่านการฟัง อ่าน พูด สังเกต คิดแก้ปัญหา ใช้เหตุผล สรุปความคิดรวบยอด รวมทั้งฝึกการเข้าสังคมและการอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
กิจกรรมสร้างสรรค์ เป็นกิจกรรมที่ใช้งานศิลปะมาช่วยส่งเสริม พัฒนา และกระตุ้นให้เด็กๆได้แสดงความสามารถของตัวเองออกมาตามอารมณ์ ความรู้สึกและจินตนาการ
กิจกรรมเสรี เป็นกิจกรรมที่ปล่อยให้เด็กเล่นได้อย่างอิสระตามมุม เช่น นิทาน ของเล่น สี บล็อกไม้ เพื่อให้เด็กได้ฝึกการเข้าสังคมและมีส่วนร่วมกับเพื่อนในการแก้ปัญหาต่างๆ
กิจกรรมเกมการศึกษา เป็นการเล่นที่ฝึกการสังเกต พัฒนากระบวนการคิด และเกิดความคิดรวบยอด ผ่านเกมต่างๆซึ่งมีทั้งแบบเล่นคนเดียวและเล่นเป็นกลุ่ม
🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈 🌈
🍒กิจกรรมไฮสโคป (High Scope)
ไฮสโคป (High Scope) เป็นการสอนที่เน้นการเรียนรู้แบบลงมือทำผ่านมุมเล่นที่หลากหลาย ด้วยสื่อและกิจกรรมที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กและการแก้ปัญหาอย่างกระตือรือร้น โดยการให้โอกาสเด็กเป็นผู้ริเริ่มการเล่นหรือกิจกรรมต่างๆอย่างอิสระ โดยใช้หลักปฏิบัติ 3 ประการคือ
การวางแผน (Plan) เป็นการกำหนดแนวทางการปฏิบัติตามสิ่งที่สนใจ การวางแผนกิจกรรมนี้เด็กอาจแสดงด้วยภาพสัญลักษณ์ประจำตัวเด็กเป็นกระบวนการที่เด็กมีโอกาสเลือกและตัดสินใจ
การปฏิบัติ (Do) การลงมือทำกิจกรรมตามแผนที่วางไว้ เป็นส่วนที่เด็กได้ร่วมกันคิด แก้ปัญหา ตัดสินใจและทำงานด้วยตนเองหรือร่วมกับเพื่อนอย่างอิสระตามเวลาที่กำหนด โดยครูเป็นผู้ให้คำแนะนำ ช่วยเหลือในจังหวะที่เหมาะสม เป็นส่วนที่เด็กได้มีการพัฒนาการพูดและปฏิสัมพันธ์ทางสังคมสูง
การทบทวน (Review) เด็กๆจะเล่าถึงผลงานที่ตนเองได้ลงมือทำเพื่อทบทวนว่าตนเองนั้นได้ปฏิบัติงานตามแผนที่ได้วางไว้หรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร ต้องการให้เด็กได้เชื่อมโยงแผนการปฏิบัติงานกับผลงานที่ทำ รวมถึงการเล่าประสบการณ์ต่างๆที่ได้ลงมือทำด้วยตนเอง
ข้อมูลอ้างอิงจาก https://th.theasianparent.com