นักศึกษาที่จะสมัครเข้ารับการพิจารณาจัดสรรทุนสนับสนุนการผลิตบัณฑิต/ทุนสนับสนุนการทำวิจัย ต้องเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ระดับบัณฑิตศึกษาในหลักสูตร วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ และหรืออยู่ในดุลพินิตของคณะกรรมการ ที่มีหัวข้อวิทยานิพนธ์ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร โดยมีกรอบหัวข้องานวิจัย ดังต่อไปนี้
เทคโนโลยีที่เกี่ยวกับเอนไซม์ โปรไบโอติค พรีไบโอติค และเปปไทด์
(Enzyme Technology, Probiotic, Prebiotic and Peptide)
การเพาะเลี้ยงเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะ
(Cell, Tissue and Organ Culture)
การกลายพันธุ์ และชักนำกลายพันธุ์ในหลอดทดลอง
(Mutation and In Vitro Mutagenesis)
การปรับปรุงเซลล์ สายพันธุ์เซลล์ด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีชีวภาพ
(Cell/ Cell Line Breeding via Biotechnological Methods)
พันธุวิศวกรรม และการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม
(Genetic Engineering and Genetically Modified Organisms)
การสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ โดยใช้เทคนิคทางเทคโนโลยีชีวภาพ โดยใช้เทคนิคทางเทคโนโลยีชีวภาพ ขยายความว่า “เป็นการสร้าง หรือเป็นการสำรวจ แล้วใช้กระบวนการทางเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อจำแนกชนิดและความหลากหลายดังกล่าว”
(Creation of Biodiversity via Biotechnological Methods)
การใช้จุลินทรีย์ สิ่งมีชีวิต และผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติ ในการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ขยายความว่า “ต้องเป็น Bio agents ที่เป็นสารจากสิ่งมีชีวิต หรือตัวสิ่งมีชีวิต อย่างเช่น จุลินทรีย์ และต้องเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางเทคโนโลยีชีวภาพด้วย”
(Utilization of Microorganisms, Bio agents and Natural Products in Increment of Agricultural Productivity)
การสร้างสารชีวเคมีจากการเพาะเลี้ยงเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะ
(Secondary Metabolite Production from Cell, Tissue and Organ Culture)
เครื่องหมายโมเลกุลในการคัดเลือกพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์ ตรวจสอบพันธุกรรม และไบโออินฟอร์เมติค
(Marker Assisted Selection, Improvement, Genetic Detection and Bioinformatics)
นักศึกษาสามารถสมัครเข้ารับการพิจารณาจัดสรรทุน โดยสมัครผ่านอาจารย์ที่ปรึกษา
o กรณีนักศึกษายังไม่สอบโครงร่าง ให้อาจารย์ที่ปรึกษาเสนอชื่อนักศึกษา พร้อมหัวข้อวิทยานิพนธ์ และกรอบงานวิทยานิพนธ์โดยสังเขป ตามแบบเสนอขอรับทุนสนับสนุนการผลิตบัณฑิต/ทุนสนับสนุนการทำวิจัย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
o กรณีนักศึกษาผ่านการสอบโครงร่างแล้ว ให้อาจารย์ที่ปรึกษาเสนอชื่อนักศึกษา โดยแนบสำเนา บว.2 พร้อมโครงร่างฉบับแก้ไขและกรอกข้อมูลตามแบบเสนอขอรับทุนสนับสนุนการผลิตบัณฑิต/ทุนสนับสนุนการทำวิจัย เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ
นักศึกษาที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการฯ จะได้รับทุนสนับสนุนในระยะเวลาการเบิกจ่าย 2 ปี ตามกำหนดการดังนี้
o ทุนสนับสนุนการผลิตบัณฑิต
ระดับปริญญาโท ให้การสนับสนุน 100,000 บาท แบ่งจ่ายเป็น 4 งวด งวดละ 25,000 บาท
•งวดที่ 1 เมื่อลงนามในสัญญารับทุน
•งวดที่ 2 เมื่อนักศึกษาสอบผ่านโครงร่างวิทยานิพนธ์ โดยจัดส่งแบบขออนุมัติโครงร่างวิทยานิพนธ์ บว. 2(NR)
•งวดที่ 3 เมื่อนักศึกษาจัดส่งรายงานความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ และรายงานผลการศึกษา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ลงนามรับรอง และวิทยานิพนธ์จะต้องมี
ความก้าวหน้า 50 % ขึ้นไป
•งวดที่ 4 เมื่อนักศึกษาจัดส่งวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ พร้อมร่างบทความ (Manuscript) เพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
ระดับปริญญาเอก ให้การสนับสนุน 120,000 บาท แบ่งจ่ายเป็น 4 งวด งวดละ 30,000 บาท
•งวดที่ 1 เมื่อลงนามในสัญญารับทุน
•งวดที่ 2 เมื่อนักศึกษาสอบผ่านโครงร่างวิทยานิพนธ์ โดยจัดส่งแบบขออนุมัติโครงร่างวิทยานิพนธ์ บว. 2(NR)
•งวดที่ 3 เมื่อนักศึกษาจัดส่งรายงานความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ และรายงานผลการศึกษา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ลงนามรับรอง และวิทยานิพนธ์จะต้องมี
ความก้าวหน้า 50 % ขึ้นไป
•งวดที่ 4 เมื่อนักศึกษาจัดส่งวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ พร้อมร่างบทความ (Manuscript) เพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
o ทุนสนับสนุนการทำวิจัย สำหรับนักศึกษาที่ได้รับทุนจากแหล่งทุนอื่นๆ มาก่อนแล้ว ทั้งในระดับปริญญาเอก และปริญญาโท ให้การสนับสนุน 50,000 บาท แบ่งจ่ายเป็น 3 งวด ดังนี้
•งวดที่ 1 20,000 บาท เมื่อลงนามในสัญญารับทุน
•งวดที่ 2 20,000 บาท เมื่อนักศึกษาจัดส่งรายงานความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ และรายงานผลการศึกษา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นผู้ลงนามรับรอง และ
วิทยานิพนธ์จะต้องมีความก้าวหน้า 50 % ขึ้นไป
•งวดที่ 3 10,000 บาท เมื่อนักศึกษาจัดส่งวิทยานิพนธ์ฉบับสมบูรณ์ พร้อมร่างบทความ (Manuscript) เพื่อตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ
กรอบของการใช้จ่ายเงินทุนมีดังต่อไปนี้
o ค่าใช้สอย ได้แก่ ค่าเล่าเรียนของนักศึกษา ค่าใช้จ่ายรายเดือนของนักศึกษา ค่าเดินทางเก็บตัวอย่าง ค่าเดินทางเพื่อนำเสนอผลงานวิจัยของนักศึกษา ค่าสาธารณูปโภคและการติดต่อสื่อสาร
o ค่าวัสดุวิจัย ได้แก่ สารเคมี เครื่องแก้ว วัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย
รายชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา และหัวข้อวิทยานิพนธ์ จะต้องเป็นไปตามที่ปรากฏในการขอรับทุน หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ จะต้องแจ้งให้ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความเป็นเลิศฯ พิจารณาต่อไป
ในระหว่างที่รับทุนการศึกษาอยู่นี้ ผู้รับทุนจะใช้ความอุตสาหะอย่างเต็มที่ในการศึกษาตามสาขาวิชาที่ได้รับ ทุนการศึกษาของผู้ให้ทุน โดยจะศึกษาเต็มเวลาและเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการที่ผู้ให้ทุนดำเนินการโดย สม่ำเสมอ เพื่อให้สำเร็จการศึกษาภายในกำหนดเวลาของหลักสูตร และจะไม่หลีกเลี่ยง ละเลย ทอดทิ้ง หรือเลิกการศึกษาก่อนการสำเร็จการศึกษา เว้นแต่จะยุติหรือเลิกการศึกษาโดยได้รับความเห็นชอบจากผู้ให้ทุนและสถาบันที่ตนสังกัดอยู่
ผู้รับทุนรับรู้ว่าผู้ให้ทุนสามารถยุติการให้ทุนการศึกษาได้หากผลการศึกษา หรือผลการทำวิทยานิพนธ์ของผู้รับทุนไม่อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ หรือผู้รับทุนได้แสดงเอกสารปลอมหรือแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ
ผู้รับทุนจะต้องส่งรายงานความก้าวหน้าวิทยานิพนธ์ และผลการเรียนทุกภาคการศึกษา โดยมีผลการเรียนเฉลี่ยทุกภาคการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 และเข้าร่วมกิจกรรมตามที่ศูนย์วิจัยความเป็นเลิศฯ กำหนด
ภายในระยะเวลา 45 วัน นับตั้งแต่วันที่สำเร็จการศึกษาในหลักสูตรที่ได้รับทุน ผู้รับทุนจะต้องส่งวิทยานิพนธ์ 1 เล่ม สิ่งตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์หรืองานประชุมวิชาการจากผลงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการค้นคว้า และวิจัย ที่ได้รับทุนให้แก่ผู้ให้ทุน
ผู้รับทุนจะต้องระบุไว้โดยแจ้งชัดในการเสนอผลงานวิจัยใดๆ อันถือเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาทั้งในรูปแบบ วิทยานิพนธ์ ผลงานตีพิมพ์ทางวิชาการ ผลงานเผยแพร่วิชาการ โปสเตอร์ และการเสนอผลงานสัมมนา วิชาการภาคบรรยายทุกครั้งว่า “งานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจาก ศูนย์วิจัยความเป็นเลิศเทคโนโลยีชีวภาพเกษตรและทรัพยากรธรรมชาติ ระยะที่ 3 คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ /This Thesis is partially supported by the Center of Excellence in Agricultural and Natural Resources Biotechnology (CoE-ANRB) : phase3, Faculty of Natural Resources, Prince of Songkla University”
ในกรณีที่ผู้รับทุนพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ผู้ให้ทุนสามารถเรียกให้ผู้รับทุนชดใช้เงินทุนคืนในจำนวนเท่ากับทุนการศึกษาที่ผู้รับทุนได้รับไปแล้ว ตามกำหนดระยะเวลาที่ผู้ให้ทุนเรียกเก็บ เว้นแต่ผู้ให้ทุนจะเห็นเป็นอย่างอื่น โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพฤติกรรม หากผิดนัดไม่ชำระหนี้ดังกล่าวตามกำหนดระยะเวลาแห่งการชดใช้หนี้ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามดุลยพินิจของผู้ให้ทุน