แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู (ยังไม่มีวิทยฐานะ) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568
ประเด็นท้าทาย
1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
ด้วยสภาพปัจจุบัน Active Learning เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในเป็นกระบวนการเรียนรู้ ที่แปลตามตัวก็คือ เป็นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติหรือการลงมือทำ “ความรู้” ที่เกิดขึ้นก็เป็นความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ กระบวนการในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนต้องได้มีโอกาสลงมือกระทำมากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว ต้องจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้การเรียนรู้โดยการอ่าน การเขียน การโต้ตอบ และการแก้ปัญหา อีกทั้งให้ผู้เรียนได้ใช้กระบวนการคิดขึ้นสูง
ซึ่งการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนในรายวิชาสุขศึกษาที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการสอนแบบบรรยายเป็นหลัก โดยมีสื่อหรือ
นวัตกรรมในการจัดการเรียนการสอนที่ยังไม่สอดคล้องกับสาระและมาตรฐานที่หลักสูตรกำหนดเท่าที่ควร จึงส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ครูผู้สอนจึงนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกมาปรับใช้ในการสอน เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้แบบ Active Learning ในวิชาสุขศึกษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องวัยรุ่นและพัฒนาการทางเพศ เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสุขศึกษาของนักเรียนให้สูงขึ้น
2. วิธีการดำเนินการให้บรรลุผล
2.1) ศึกษาวิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ตามหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2561) วิชาสุขศึกษาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
2.2) ออกแบบการจัดการเรียนรู้เรื่อง วัยรุ่นและพัฒนาการทางเพศ
2.3) จัดรูปแบบของการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning มีขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 การเตรียมการ (Preparation)
• ครูผู้สอน เตรียมเนื้อหาและออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้ รวมถึงจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้หรือเครื่องมือ
ที่จำเป็น
• ผู้เรียนอาจได้รับมอบหมายให้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนเข้าร่วมกิจกรรม (เช่นวิดีโอการสอน/เอกสาร)
ขั้นตอนที่ 2 การกระตุ้นให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม (Engagement)
• ในชั้นเรียนหรือกิจกรรม ครูผู้สอน เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามหรือปัญหาที่ท้าทาย กระตุ้นความสนใจ และความอยากรู้อยากเห็น
ของผู้เรียน
• ผู้เรียน เริ่มมีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้ เช่น การคิดวิเคราะห์หรือแสดงความคิดเห็นเบื้องต้น
ขั้นตอนที่ 3 การทำกิจกรรม (Activity or Exploration)
• ครูผู้สอน นำเสนอหรือจัดกิจกรรมที่เน้นให้ผู้เรียนปฏิบัติหรือสำรวจด้วยตนเอง โดยอาจใช้รูปแบบต่าง ๆ เช่น การทำงานกลุ่ม
การแก้ปัญหา การทดลอง หรือโครงงาน
• ผู้เรียนมีบทบาทสำคัญในการคิดวิเคราะห์ ค้นคว้า แก้ไขปัญหา หรือสร้างสรรค์งานตามที่ได้รับมอบหมาย
ขั้นตอนที่ 4 การสะท้อนความคิด (Reflection)
• หลังจากทำกิจกรรมแล้ว ครูผู้สอน ให้ผู้เรียนได้สะท้อนสิ่งที่ได้เรียนรู้ ผ่านการอภิปราย การเขียนบันทึก หรือการนำเสนอความคิดเห็น
ต่อเพื่อนร่วมชั้น
• ผู้เรียน ได้ทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้ และแบ่งปันประสบการณ์หรือความเข้าใจของตนเอง ซึ่งเป็นการทำให้การเรียนรู้นั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขั้นตอนที่ 5 การประเมินผลและสรุป (Assessment and Summary)
• ครูผู้สอน ทำการประเมินผลการเรียนรู้ผ่านวิธีการต่าง ๆ เช่น การทดสอบ การสอบถาม คำตอบจากผู้เรียน หรือการสังเกตพฤติกรรม
และผลลัพธ์ของกิจกรรม
• สรุปบทเรียนที่สำคัญจากกิจกรรม และเชื่อมโยงกับเนื้อหาที่จะเรียนต่อไป
• ผู้เรียน อาจได้รับฟีดแบ็ก หรือการประเมินเพื่อปรับปรุงและพัฒนาทักษะต่อไป
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ ผู้เรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เชิงรุกวิชาสุขศึกษา โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องวัยรุ่นและพัฒนาการทางเพศ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้เชิงรุกวิชาสุขศึกษา โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ Active Learning ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องวัยรุ่นและพัฒนาการทางเพศ ในระดับ มาก ขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจและทักษะในเรื่อง วัยรุ่นพัฒนาการทางเพศ ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการเจริญเติบโตต่อไป