หลักการและที่มา 

             สาขาวิชาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการนวัตกรรม คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ก่อตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนนโยบายยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนากำลังคนและเทคโนโลยี ตลอดจนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมุ่งเน้นความร่วมมือเพื่อการพัฒนา และสอดคล้องกับนโยบายเชิงกลยุทธ์ของมหาวิทยาลัย

          ปัจจุบัน สาขาวิชาฯ เปิดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี จำนวน 1 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (เทคโนโลยีอุตสาหกรรม) แบ่งออกเป็น 4 วิชาเอก ได้แก่

         ในระดับบัณฑิตศึกษา เปิดการเรียนการสอน 2 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต และ หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (เทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการนวัตกรรม) โดยแบ่งออกเป็น 2 วิชาเอก ได้แก่

         ทั้งสามหลักสูตรได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างรอบด้าน โดยเน้นผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ ทักษะทางปัญญา การคิดเชิงระบบ ทักษะการวิเคราะห์ การเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ทักษะการสื่อสาร (Soft Skills) และการปฏิบัติตามจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อให้สอดคล้องกับทักษะในศตวรรษที่ 21 และกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อขับเคลื่อนวิสัยทัศน์และพันธกิจดังกล่าว สาขาวิชาฯ ส่งเสริมให้อาจารย์ บุคลากร และนักศึกษาในทุกระดับมีส่วนร่วมในการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีอุตสาหกรรม การจัดการนวัตกรรม และการบริหารเทคโนโลยีสมัยใหม่ อันจะนำไปสู่ประโยชน์ในระดับองค์กร ชุมชน และประเทศ

          การจัดประชุมวิชาการเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและการจัดการนวัตกรรม ระดับชาติ ครั้งที่ 1 (The 1st Industrial Technology and Innovation Management National Conference 2025: ITIMcon2025) จึงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนพันธกิจของสาขาวิชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างนักวิจัย อาจารย์ นักศึกษา และผู้ประกอบวิชาชีพจากหลากหลายสาขา

          การประชุมจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "นวัตกรรมหมุนเวียน: อนาคตแห่งความยั่งยืนในอุตสาหกรรม (Circular Innovation: The Sustainable Future of Industry)" ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน โดยเชื่อมโยงกับมาตรฐานสากลและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายเจ้าภาพร่วม 10 หน่วยงาน ได้แก่