ชื่อ : นายจีระพงษ์ โพพันธุ์
ตำแหน่ง : ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
การศึกษา : ปริญญาตรี กศ.บ. คอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร
ปริญญาโท ศษ.ม. การบริหารการศึกษา วิทยาลัยทองสุข
สถานที่ทำงาน : กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สาขาเทคโนโลยี)
โรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิจิตร
ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการสร้างแอปพลิเคชัน ด้วยบทเรียนออนไลน์ และกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
1. สภาพปัญหาของผู้เรียนและการจัดการเรียนรู้
การจัดการเรียนรู้วิชาวิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยส่วนมากจะเกี่ยวกับการสร้างแอปพลิเคชัน ซึ่งเมื่อนักเรียนสร้างแอปพลิเคชันของตนเองได้แล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันในแบบพื้นฐานที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก แต่นักเรียนจะสามารถเข้าใจหลักการของโปรแกรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของจุดมุ่งหมายในรายวิชาวิทยาการคำนวณ ซึ่งในปีการศึกษาที่ผ่านมา พบว่า นักเรียนยังขาดทักษะในเรื่องการสร้างแอปพลิเคชัน ซึ่งแนวทางวิธีการจัดการเรียนการสอนแบบปกติยังไม่กระตุ้นการเรียนรู้ของนักเรียนมากพอที่จะสามารถนำมาพัฒนาแอปพลิเคชันได้ ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าว ครูผู้สอนจึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาวิธีการสอนโดยใช้ เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สื่อการเรียนรู้แบบออนไลน์ ที่ส่งเสริมแนวคิดเชิงคำนวณที่นำไปสู่การสร้างแอปพลิเคของนักเรียน และออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น
2. วิธีการดำเนินงานให้บรรลุ
ข้าพเจ้าดำเนินการดังนี้คือ
2.1 ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายและเนื้อหาที่ใช้
2.1.1 วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2561) และหลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบางมูลนากภูมิวิทยาคม ในเรื่องของมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัดของเนื้อหาเรื่องการสร้างแอปพลิเคชั่น
2.1.2 ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวของกับ เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างกิจกรรมการเรียนรู้
2.1.3 สํารวจความพร้อม ความสามารถในการเข้าถึงสื่อและเทคโนโลยีรวมถึงรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง
2.2 กําหนดจุดประสงค์การเรียนรู้
2.2.1 ศึกษาเอกสารเกี่ยวกับจุดประสงค์การเรียนรู้รายวิชาวิทยาการคำนวณ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชั่น
2.2.2 กําหนดจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ต้องการให้เกิดกับนักเรียนหลังจากได้เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชั่น
2.3 กําหนดโครงสร้างหน่วยการเรียนรู้
2.3.1 จัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการสร้างแอปพลิเคชั่น รายวิชาวิทยาการคำนวณ ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ด้วยบทเรียนออนไลน์ จำนวน 4 แผน รวม 6 คาบเรียน
2.3.2 นําแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชั่น ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้วเสนอ ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน เพื่อประเมินความสอดคล้องของจุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล ตลอดจนความถูกต้องของภาษาที่ใช้
2.3.3 นําผลการประเมินความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการสร้างแอปพลิเคชั่น และข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคนมาปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ตามคำแนะนําของผู้เชี่ยวชาญก่อนนําแผนการจัดการเรียนรู้ไปใช้จริงกับนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง
2.4 ขั้นสร้างนวัตกรรม
2.4.1 กําหนดและจัดเตรียมสื่อการเรียนรู้ที่เหมาะสมและสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชัน ซึ่งประกอบด้วย เอกสารประกอบการเรียนรู้ในรูปแบบเว็บไซต์ออนไลน์ และคลิปวิดีโอ
2.4.2 จัดทำเอกสารประกอบการเรียนรู้ในรูปแบบเว็บไซต์ออนไลน์ และคลิปวิดีโอ เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชัน โดยจัดทำให้สอดคล้องกับตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยจัดเรียงลำดับเนื้อหาจากง่ายไปยากตามลำดับ
2.4.3 จัดทำสื่อการเรียนรู้โดยพิจารณาจากองค์ประกอบของแนวคิด การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E)
2.4.4 นํากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาการคำนวณ เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชัน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 คน ตรวจสอบความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้ ความถูกต้องชัดเจน ความสอดคล้องสาระการเรียนรู้ และระยะเวลาที่ใช้ ตลอดจนภาษาที่ถูกต้อง โดยใช้แบบประเมินความเหมาะสมซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่าตามวิธีของ Likert 5 ระดับ (พิชิต ฤทธิ์จรูญ. 2559: 182-183) ดังนี้
5 มีความเหมาะสมมากที่สุด
4 มีความเหมาะสมมาก
3 มีความเหมาะสมปานกลาง
2 มีความเหมาะสมน้อย
1 มีความเหมาะสมน้อยที่สุด
2.4.5 นําผลการประเมินความเหมาะสมของกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง การสร้างแอปพลิเคชัน และข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญแต่ละคน มาปรับปรุงแก้ไข และพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ ตามคำแนะนําของผู้เชี่ยวชาญ
3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง
3.1 เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 2 จำนวน 40 คน ได้รับการพัฒนาทักษะการสร้างแอปพลิเคชัน ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) รายวิชาวิทยาการคำนวณ ด้วยบทเรียนออนไลน์ โดยมีคะแนนทดสอบหลังเรียนผ่านเกณฑ์ (ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม) คิดเป็นร้อยละ 80 ของจำนวนนักเรียน และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มาก ขึ้นไป
3.2 เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ห้อง 2 จำนวน 40 คน มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาการสร้างแอปพลิเคชัน และสามารถนําความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เพื่อใช้ในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมการเรียนการสอนกิจกรรมการเรียนการสอน
20241104_055713000_iOS.MOV20241104_055533000_iOS.MOV20241105_021946000_iOS.MOV20241105_022006000_iOS.MOVผลลัพธ์จากการจัดกิจกรรม
754960314.710556.mp4754566953.296474.mp4754885393.787462.mp4754499292.037807.mp4