ข้อตกลงในการพัฒนางาน
ที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้
ข้อตกลงในการพัฒนางาน
ที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้
ประเด็นท้าทายเรื่อง
การพัฒนาสื่อการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ด้วยการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และและคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน
การจัดการเรียนการสอนภาษาไทยตามหลักสูตรขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ได้กำหนดได้กำหนดไว้ว่าเมื่อจบการศึกษา จะต้องแต่งคำประพันธ์ ประเภทกาพย์ โคลง ร่าย และฉันท์ได้ การแต่งบทร้อยกรองสามารถสื่อความหมายที่ได้อารมณ์อย่างลึกซึ้ง ทั้งยังมีส่วนช่วยให้จิตใจนุ่มนวลอ่อนโยน ฮึกเหิม เศร้าโศก สะเทือนใจ ฯลฯ ไปตามถ้อยคำอันประกอบด้วยสุนทรียรสนั้น ๆ ด้วย และบทร้อยกรองยังมีคุณค่าต่อผู้แต่ง ทั้งคุณค่าทางจิตใจ คือการได้พรรณนาอารมณ์ และความรู้สึก นึกคิดของผู้เขียน ถ้าแสดงออกในรูปแบบของร้อยกรองก็จะงดงาม คุณค่าทางสติปัญญา กล่าวคือ ผู้แต่งได้ใช้สติปัญญา ใช้วิจารณญาณ ในการเขียนซึ่งต้องศึกษาค้นคว้าหาข้อมูล ให้เพียงพอ เป็นการเพิ่มพูนความรู้ ความคิดให้แก่ผู้เขียน คุณค่าทางสังคม เมื่อผู้เขียนประสบความสำเร็จ ในการเขียนบทกวี จะเกิดความมั่นใจ เกิดความกล้าที่จะสร้างผลงานต่อไป ได้การยอมรับจากสังคม และคุณค่า ทางการสื่อสารคือ ทำให้กวีสามารถเล่าเรื่องราวหรือถ่ายทอดความในใจสู่ผู้อ่าน ผู้ฟัง และผู้ชม โดยผ่านสื่อ ต่าง ๆ ด้วยความงามและความสำคัญทางภาษาดังกล่าวมาข้างต้น ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้น พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 พบว่า หลักสูตรได้ให้ความสำคัญกับการแต่งคำประพันธ์หรือบทร้อยกรองไว้ใน สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติและหลักการใช้ภาษาไทย กำหนดให้นักเรียนศึกษาธรรมชาติกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับโอกาสและบุคคล การแต่งคำประพันธ์ประเภทต่าง ๆ กระทรวงศึกษาธิการได้เห็นความสำคัญของบทร้อยกรอง ซึ่งแสดงถึงภูมิปัญญาทางภาษาและมรดกทางวัฒนธรรมของคนไทยที่สืบทอดมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบันจึงกำหนดในหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้บทร้อยกรอง ตามวัยที่เหมาะสม คือ กาพย์โครง ร่าย และฉันท์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าบทร้อยกรอง ชนิดฉันท์ เป็นบทเรียนพื้นฐานที่นักเรียนควรรู้ เพื่อใช้ในการศึกษาวรรณคดีวรรณกรรมประเภทฉันท์ และ งานเขียนบทประพันธ์ต่อไป โดยที่นักเรียนจะต้องเรียนรู้ รูปแบบของฉันท์ ซึ่งมีลักษณะฉันทลักษณ์เป็นการเฉพาะ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์และสืบทอดลักษณะคำประพันธ์ของไทยเอาไว้ให้ยั่งยืนต่อไปอีกด้วย แต่สำหรับการสอนแต่งคำประพันธ์หรือแต่งบทร้อยกรองยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร
การเรียนแบบกลุ่มร่วมมือเป็นกิจกรรมที่ช่วยเสริมความสนใจให้กับนักเรียน โดยเป็นการจัดการเรียน การสอนที่เน้นให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ซึ่งต่างคนต่างช่วยกันเรียนรู้ด้านเนื้อหาโดยคละความสามารถ การแบ่งกลุ่มแบบนี้จะทำให้ คนเก่ง เอื้ออาทรช่วยคนปานกลาง และคนอ่อน มีความเชื่อมั่นใน ตนเองสูงขึ้น มีความเป็นผู้นำมากขึ้น ส่วนคนปานกลางก็จะเรียนรู้วิธีเรียนจากคนเก่งและเอื้ออาทรต่อคนอ่อน คนอ่อนก็จะได้รับความช่วยเหลือและส่งเสริมจากคนเก่งและคนปานกลาง ซึ่งจะช่วยลดปัญหาในการสอนซ่อมเสริม ดังนั้นสมาชิกนักเรียนทุกคนต้องช่วยเหลือกันเรียนรู้เป็นวิธีการจัดกิจกรรมรูปแบบการเรียนการสอนของ กระบวนการกลุ่มแบบร่วมมือ เป็นกระบวนการจัดการเรียนการสอนที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนในกลุ่มต้องร่วมกันทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดผลสำเร็จของกลุ่ม เนื่องจากสัมพันธภาพในกลุ่มจะสอนชีวิตกลุ่ม การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ผู้เรียนจะได้รับการเรียนรู้ระเบียบกฎเกณฑ์ความประพฤติที่ต้องปฏิบัติในสังคม บทบาทต่าง ๆ ที่มนุษย์ต้องกระทำร่วมกันเป็นหมู่คณะ
จากปัญหาดังกล่าว การจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการศึกษา เพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้สามารถปรับตัวและเติบโตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัดการเรียนรู้จึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถยกระดับประสิทธิภาพการเรียนรู้ให้สูงขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ครูผู้สอนจึงมีความสนใจที่จะพัฒนาทักษะการพัฒนาสื่อการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ด้วยการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปิดโอกาสให้ ผู้เรียนได้ใช้ความคิด จินตนาการ ทักษะทางภาษา และได้มีปฏิสัมพันธ์กัน โดยการร่วมกันคิด อ่าน เขียน ปรึกษาหารือ แสดงความคิดเห็นและแก้ไข ข้อบกพร่อง นอกจากนี้ยังมีการอาศัยซึ่งกันและกันโดยการมีส่วนร่วมต่องานที่ได้รับมอบหมาย เพื่อให้ผู้เรียนมีการพัฒนาทักษะการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์
ที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นไป
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม มีทักษะการแต่ง คำประพันธ์ประเภทฉันท์ ด้วยการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ 11
นักเรียนเข้าใจฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ด้วยการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ 11
80 %
ผ่านวัตถุประสงค์
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเพ็ญพิทยาคม ร้อยละ 80 ที่เรียนในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน มีการพัฒนาทักษะการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ อินทรวิเชียรฉันท์ 11
80 %
ผ่านวัตถุประสงค์
ผลลัพธ์เชิงปริมาณ
นักเรียนมีทักษะเรื่องการแต่งคำประเภทฉันท์ สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด (ร้อยละ 80)
นักเรียนมากกว่าร้อยละ 80 เข้าร่วมกิจกรรมที่ใช้สื่อการเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์
ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการเรียนรู้ อยู่ในระดับ ดีมาก
ผลลัพธ์เชิงคุณภาพ
นักเรียนมีความเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับทักษะการแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ด้วยการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ได้
นักเรียนมีความสามารถแต่งคำประพันธ์ประเภทฉันท์ ด้วยการบูรณาการปัญญาประดิษฐ์ (AI) เรื่อง อินทรวิเชียรฉันท์ 11 ได้
นักเรียนแสดงความสนใจในวิชาภาษาไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีความทันสมัย ตรงกับความต้องการ และมีปฏิสัมพันธ์สูง