ผู้แต่ง พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ลักษณะคำประพันธ์ กลอนบทละคร
จุดประสงค์ในการแต่ง เพื่อใช้เล่นละครใน และใช้เป็นบทปลุกใจประชาชนให้กล้าหาญ สอนศีลธรรมแก่ประชาชน
ที่มาของเรื่อง บทพระราชนิพนธ์เรื่องรามเกียรติ์ ฉบับระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
ข้อคิดที่ได้รับ 1. อำนาจตกอยู่ในมือของคนที่ลืมตัว จะเกิดผลร้ายตามมาได้
2. เมื่อคนมีอำนาจ จะตัดสินใจด้วยความรู้สึกก้าวร้าวรุนแรงได้ง่ายเมื่อคิดว่าถูกรังแก
3. คนเราควรใช้อำนาจเพียงเพื่อป้องกันตัวไม่ให้รับพิบัติเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อทำลายผู้อื่นเพื่อแก้แค้น
4. ความหลงอำนาจเป็นกิเลสอย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้อยู่ร่วมในสังคมต้องได้รับความเดือดร้อน
5. วรรณคดีเป็นบทวิจารณ์ชีวิตที่ทำให้คนเราเข้าใจชีวิตของเพื่อนมนุษย์ได้อีกทางหนึ่ง
เนื้อเรื่องย่อ
นนทกนั้นนั่งประจำอยู่ที่บันไดเชิงเขาไกลลาส มีหน้าที่คอยล้างเท้าให้แก่เหล่าเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร เหล่าเทวดาให้นนทกล้างเท้าให้แล้วก็มักแหย่เย้าหยอกล้อ นนทกเป็นประจำ ลูบหัวบ้าง ถอนผมบ้าง จนหัวของนนทกโล้นทั้งศรีษะ ทำกันขนาดนี้ก็ต้องเจ็บแค้นเป็นธรรม แต่ไม่มีทางสู้เขาได้ เพราะไม่มีฤทธิ์เดชเท่าเขา นนทกก็เลยไปเข้าเฝ้าพระอิศวร
นนทกก็เลยไปกราบทูลขอพรจากพระอิศวรว่า พระอิศวรเป็นผู้ครองโลก ย่อมมีความเมตตาปรานี ใครที่กระทำแต่ความดี เมื่อขอสิ่งใดย่อมได้รับตามคำขอ นนทกได้ทำงานรับใช้พระอิศวรมานาน ยังไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนใดๆเลย พระอิศวรมีจิตเมตตา เห็นนนทกเศร้าโศกเสียใจ จึงมีรับสั่งว่านนทกต้องการสิ่งใดก็ให้รีบบอก พระอิศวรจะได้จะประทานพรให้ นนทกอ้างว่า เพื่อป้องกันตนเองถูกรังแก จึงขอพรว่า “ให้มีนิ้วเป็นเพชรมีฤทธิ์ที่สามารถชี้ใครก็ตาย จะได้เป็นข้ารับใช้ ไปกว่าจะสิ้นชีวิต” เมื่อพระอิศวรได้รับฟังความทุกข์ใจของนนทก และการถวายสัตย์ปฏิญาณต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ว่า “จะทำหน้าที่ด้วยความสัตย์สุจริตและด้วยความจงรักภักดี ด้วยความเมตตาพระอิศวรจึงประทานพรให้”
เมื่อนนทกได้รับพรจากพระอิศวรตามที่ขอ จึงขอลาพระอิศวรกลับไปยังบันไดเขาไกรลาส นนทกมีหน้าที่ล้างเท้าให้เหล่าเทวดา เดิมที่ไม่ได้มีฤทธิ์เดชอะไร แต่ตอนนี้มีฤทธิ์เดชมากพอตัวแล้ว มีนิ้วชี้เป็นเพชร ชี้ใครให้ตายก็ได้ นนทกได้ฤทธิ์และอำนาจแล้วเกิดความยินดีระเริงใจ เกิดความหลงยึดติดว่า ฤทธิ์และอำนาจนั้นเป็นของตน ไม่มีใครสามารถสู้เขาได้ จึงลืมคำที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระอิศวร
ในตอนนั้นเองเหล่าเทวดา ไม่ว่าจะเป็นครุฑ ชาวสวรรค์ที่มีความสามารถในวิชาดนตรีและขับร้อง ต่างมาเข้าเฝ้าพระอิศวรเมื่อถึงเขาไกรลาสแล้ว เหล่าเทวดาต่างพากันไปที่บันไดเขาไกรลาส ให้นนทกล้างเท้าให้ เหล่าเทวดาก็กลั่นแกล้งนนทกหยอกเล่นเหมือนเช่นทุกวัน อย่างสนุกสนาน นนทกจึงเกิดความโกรธแค้น เกินจะยับยั้งใจได้ จึงแผลงฤทธิ์ชี้นิ้วเพชรไปยังเทวดานางฟ้าทันที นนทกใช้อำนาจนั้นไปในทางไม่ชอบ เข่นฆ่าสังหารเหล่าเทวดา ครุฑ นาค และคนธรรพ์ล้มตายเป็นจำนวนมาก
เมื่อนั้นพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ในชั้นสวรรค์ เห็นนนทกใช้อำนาจศักดิ์สิทธิ์ชี้หมู่เทวดาตายเป็นจำนวนมาก ก็ตกใจงงไปพักหนึ่ง สงสัยว่าใครเป็นผู้ประทานพรให้นนทกมาฆ่าเหล่าเทวดา คิดแล้วก็ขึ้นเฝ้าพระอิศวร กราบทูลพระอิศวรว่ายักษ์อสรูนนทกที่เคยรับใช้ถวายงานพระอิศวรอยู่ที่เชิงเขาไกรลาสนั้น ตอนนี้กลับกลายเป็นอันธพาลอาศัยนิ้วเพชรเข่นฆ่าเทวดา ครุฑ นาค และคนธรรพ์ ได้รับความเดือดร้อนไปทั่ว
การกระทำรุนแรงของนนทกในครั้งนี้ ทราบถึงองค์พระอิศวร พระอิศวรเห็นว่านนทกทำหน้าที่ด้วยความสัตย์สุจริตและด้วยความจงรักภักดี ด้วยความเมตตาพระอิศวรจึงประสิทธิประสาทให้พร แต่นนทกกลับใช้อำนาจไปในทางที่ผิด พระอิศวรพินิจเล็งเห็นว่า คงไม่มีใครเหมาะที่จะปราบปรามนนทกได้ นอกจากพระนารายณ์ จึงตรัสให้เชิญพระนารายณ์ไปปราบนนทก
พระนารายณ์รับคำสั่งจากพระอิศวรให้ไปปราบนนทก พระนารายณ์จึงแปลงโฉมเป็นนางเทพอัปสรที่สวยสดงดงามกว่าใครในสามโลก พระนารายณ์ได้รับทราบโองการจึงเสด็จมายังเชิงเขาไกรลาสและคิดหาวิธีปราบนนทก โดยจำแลงเป็นนางเทพอัปสร รูปร่างหน้าตาหมดจดงดงาม เข้าไปพูดจาล่อลวงยั่วยวนนนทก นนทกเสร็จสิ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ล้างเท้าให้เหล่าเทวดาแล้ว ก็รู้สึกสบายใจ นนทกได้เห็นนางอัปสรที่มีรูปโฉมงามเกินกว่าใคร สวยเหมือนนางฟ้า ก็เกิดหลงรักหลงชอบนางอัปสรทันที นนทุกจึงคิดเข้าเกี้ยวนางอัปสรผู้เลอโฉม นนทกเย้าหยอกนางอัปสร นนทกถามนางอัปสรชื่ออะไร ทำไมจึงมาเดินอยู่แถวนี้
พระนารายณ์ที่แปลงกายเป็นนางอัปสร ชำเลืองมองนนทก แล้วถามนนทกว่า "นนทกมาลวงถามและลวนลามนาง ไม่มีความเกรงใจ นางเป็นถึงนางรำของพระอินทร์ชื่อสุวรรณอัปสร มีความทุกข์จึงเที่ยวเล่นมาเพื่อหวังให้คลายร้อน"
นนทกได้ฟังคำของนางอัปสร นนทกจึงตอบนางอัปสรว่า "นางอัปสรเป็นหญิงที่มีความงดงามทั้งกายและมีวาจาที่ไพเราะ เหมาะสมแล้วที่จะเป็นนางรำ หากเราเคยมีวาสนาต่อกันมา เราคงจะได้เป็นคู่กัน พี่ไม่ได้คิดลวนลามน้องนางแต่อย่างใด"
นางอัปสรตอบนนทกว่า นางรู้ว่านนทกคิดดจะจีบ นางเป็นนางรำหากจะใจชอบพอกัน ก็ให้รำไปพร้อมกับนาง หากรำได้และรำตาม นางก็ยอมคบด้วย
นนทกนั้นไม่รู้ว่าพระนารายณ์แปลงกายเป็นนางอัปสร นนทกรู้สึกหลงรักนางอัปสรมาก ก็เลยพูดนางอัปสรว่า “อย่าได้วิตกไปเลย พี่เป็นข้ารับใช้พระอิศวรมานาน เชิญเจ้าร่ายรำเถอะ ให้หมดทุกท่าที่เจ้าจำได้ พี่จะรำตามน้องหมดทุกท่าที่น้องรำมา” พระนารายณ์เห็นนทกหลงกล จึงยั่วยวนนทกให้รำตาม
พระนารายณ์ที่แปลงกายเป็นนางอัปสรร่ายรำในท่าต่าง ๆ ได้แก่ เทพนม ปฐม พรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลา เฉิดฉิน กวางเดินดง หงส์บิน กินรินเลียบ ช้านางนอน ภมรเคล้า แขกเต้าเข้ารัง ผาลาเพียงไหล่ เมขลาล่อแก้ว มยุเรศฟ้อน ลมพัดยอดตอง พรหมนิมิต พิสมัยเรียงหมอน มัจฉาชมสาครพระสี่กรขว้าง ถึงท่านาคาม้วนหางวง ด้วยฤทธิ์เดชนิ้วเพชรของนนทก ทำให้นนทกขาหักล้มลง
นนทกเห็นนางอัปสรแปลงกายเป็นพระนารายณ์ นนทกก็รู้ว่าตัวเองโดนหลอกเพื่อที่จะฆ่า จึงถามพระนารายณ์ว่าตน ทำผิดอะไร พระนารายณ์ฟังคำของนนทก มีจึงกับนนทกว่า โทษของนนทกใหญ่หลวงมาก นนทกทะนงใจไม่เกรงกลัว พระอิศวร เข่นฆ่าเหล่าเทวดา โทษของนนทกมีเพียงความตายเท่านั้น พระนารายณ์มีจิตเมตตา แต่เป็นคำสั่งพระอิศวร พระนารายณ์จึงไม่สามารถไว้ชีวิตนนทกได้ พูดแล้วก็แกว่งตรีออกไป แสงกระจายอย่างไฟบรรลัยกัลลป์
นนทกตัดพ้อต่อว่าพระนารายณ์เอาเปรียบ ไม่ยอมต่อสู้แบบซึ่ง ๆ หน้า ทำไมต้องแปลงกายมาหลอกตน หรือเพราะกลัวนิ้วเพชรจะทำให้พระนารายณ์สิ้นชีวิต นนทกมีเพียงสองมือจะสู้พระนารายณ์ที่มีสี่มือได้อย่างไร หากนนทกมีสี่มือเช่นเดียวกับพระนารายณ์ นนทกก็สามารถสู้กับพระนารายณ์ได้
พระนารายณ์ได้ฟังนนทก พระนารายณ์จึงตอบนนทกกลับไปว่าที่พระองค์ต้องแปลงกายเป็นนางอัปสร ใช่เพราะพระองค์จะเกรงกลัวนนทก หากนนทกคิดว่าการสู้กันด้วยกำลังจะทำให้นนทกชนะ ชาติหน้าขอให้นนทกเกิดมามีสิบหัว สิบหน้า ยี่สิบมือและอาวุธพร้อมสรรพ ส่วนพระองค์จะเกิดไปเป็นมนุษย์มีเพียงสองมือ จะได้สู้กันอีกครั้ง ให้รู้แพ้รู้ชนะ พูดจบพระนารายณ์ก็ใช้พระแสงตัดหัวนนทกกระเด็นไป
นนทกเกิดเป็นทศกัณฐ์ โอรสของท้าวลัสเลียนกับรางรัชดาแห่งกรุงลงกา ส่วนพระนารายณ์ตามอวตารมาเกิดพระราม โอรสของท้าวทศรถกับนางเกาสุริยาแห่งกรุงอโยธยา
กระเษียรวารี เกษียร สมุทรหรือทะเลน้ำนม
ไกรลาส ชื่อภูเขาที่เป็นที่ประทับของพระอิศวร
คนธรรพ์ ชาวสวรรค์พวกหนึ่ง มีความชำนาญในวิชาคนตรีและขับร้อง
จุไร ผมที่เกล้าเป็นจุกและประดับอย่างสวยงาม
ตรัยตรึงศา ตรัยตรึงศ์หรื่อดาวดึงส์ แปลว่า ๓๓
ตรี คือตรีศูล เป็นอาวุธสามงาม ปกติเป็นเทพอาวุธของพระอิศวร
เทพอัปสร นางฟ้า
ธาตรี แผ่นดิน,โลก
นนทก,นนทุก ในรามเกียรติ์พระราชนิพนธ์รัชกาลที่๑ ตัวละครตัวนี้ชื่อว่านนทก
นาคี นาค คืองูใหญ่มีหงอน เป็นสัตว์ในนิยาย
บทบงสุ์,บทศรี ใช้หมายถึงพระบาทของเทวดาหรือกษัตริย์ เป็นต้น
บังเหตุ ประมาท,ทำให้เป็นเหตุ
พระหริวงศ์ พระนารายณ์
พระองค์ทรงสังข์คทาธร พระนารายณ์ ตามคติอินเดียว่ามีสี่กรถือสังข์ จักรคทาและธรณี
ไฟกาล ไฟกัลป์ หรือ ไฟบรรลัยกัลป์
ภักษ์ผล ผลสำเร็จ
ลักษมี ชายาของพระนารายณ์
วิทยา ในที่นี้คือ วิทยาธร ชาวสวรรค์พวกหนึ่งมีวิชาอาคม
สำเร็จมโนรถ ได้ตามต้องงการ
สิ้นท่า ครบทุกท่ารำ
สุบรรณ ครุฑ คือ พญานกในเทพนิยาย
สุรัสวดี ชายาของพระพรหม
โสมนัสา คือคำวา โสมนัยน์ หมายความว่า ยินดี
หัสนัยน์ ผู้มีพันตา หมายถึง พระอินทรเหป็นเทวราชผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
อสุนี อสุนีบาต หมายถึง ฟ้าผ่า
อัฒจันทร์ ในที่นี้หมายถึงขั้นบันได