แหล่งเรียนรู้ : เศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฏีใหม่ ประจำตำบลคุ้งสำเภา
ประวัติความเป็นมาของแหล่งเรียนรู้
ตามที่ สำนักงาน กศน.ร่วมกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะดำเนินการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล เพื่อขยายผลโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่ประชาชน โดยสร้างความร่วมมือจัดตั้งหมู่บ้านการเรียนรู้ตามรอยพระยุคลบาท สนับสนุนแนวทางการเผยแพร่องค์ความรู้ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ ผ่านกลไกทางการศึกษาของ กศน. ให้บุคลากร นักศึกษา กศน. ตลอดจนประชาชนได้ตระหนักรู้ เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเห็นความสำคัญของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดชัยนาท ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาคนด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงตั้งศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล เป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาดูงานด้านปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล โดยในการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบลนี้ กศน.ตำบลดำเนินการสำรวจรวบรวมแหล่งเรียนรู้ ปราชญ์ชาวบ้าน ภูมิปัญญาที่ประสบความสำเร็จในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต มาจัดตั้งเป็นศูนย์เรียนรู้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ประจำตำบล
จุดเริ่มต้นหรือแนวคิดของแหล่งเรียนรู้
ในชุมชนต่างๆ มีภูมิปัญญาอยู่หลายด้านและบางแห่งเคยเป็นเมืองเก่ามาก่อน จึงมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากมายที่สามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชนรุ่นหลัง ได้ศึกษาค้นคว้าทางประวัติศาสตร์ สามารถเป็นแหล่งการเรียนรู้ได้ดี
แหล่งการเรียนรู้ที่ดี และมีความหลากหลายในด้านการศึกษาหาความรู้ เช่น โบราณสถาน โบราณวัตถุ พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่น ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี บุคคลสำคัญในท้องถิ่น และภูมิปัญญาชาวบ้าน ซึ่งเป็นแหล่งการเรียนรู้ ทั้งในระบบ / นอกระบบการศึกษา และตามอัธยาศัย จากแหล่งการเรียนรู้ที่มีอยู่ในท้องถิ่น สามารถนำมาจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของท้องถิ่น โดยไม่ทำให้จุดประสงค์และคาบเวลาเรียนเปลี่ยนแปลงไปจากที่กำหนดไว้ในหลักสูตร เริ่มจากการสำรวจข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ นำมากำหนดเป็นจุดประสงค์การเรียนรู้ กำหนดเนื้อหาสาระ จัดแนวทางในการจัดกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ การวัดผลประเมินผล และนำมาจัดทำเป็นแผนการสอนและนำหลักสูตรไปใช้ทั้งนี้เพื่อให้
(1) นักเรียนได้เรียนรู้เรื่องราวของตนเอง จากแหล่งการเรียนรู้จริงในท้องถิ่น เกิดความรักความภาคภูมิใจ และสามารถมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและพัฒนาท้องถิ่นของตนได้
(2) นำข้อมูลพื้นฐานจากแหล่งการเรียนรู้มาจัดทำเป็นหลักสูตรท้องถิ่นให้นักเรียนมีประสบการณ์ตรง จากแหล่งการเรียนรู้และสามารถประยุกต์ความรู้ที่ได้มาใช้ในชีวิตจริง
(3) ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น และสามารถนำทักษะกระบวนการเรียนรู้ และ ประสบการณ์การเรียนรู้จากแหล่งการเรียนรู้ ทำให้เป็นผู้ใฝ่รู้ และเห็นความสำคัญของการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ประวัติความเป็นมาของตำบลคุ้งสำเภา
ตามประวัติความเป็นมาของตำบลคุ้งสำเภานั้นเป็นตำบลหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท และเป็นตำบลที่ตั้งอยู่บริเวณ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีประชากรปลูกบ้านเรือนในเขตชุมชนเมือง อยู่กันอย่างหนาแน่นพอสมควรตามแนวแม่น้ำเจ้าพระยา และตำบลคุ้งสำเภายังมีตำนานเล่าขานกันมาช้านานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษว่า ในสมัยนั้นมีการทำการค้าขายกันทางเรือ เพราะในสมัยนั้นเส้นทางการติดต่อค้าขายยังไม่มีความเจริญ ต้องค้าขายกันทางเรือหรือเดินเท้าเท่านั้น จึงทำให้ตำบลคุ้งสำเภากลายเป็นเมืองท่าขนาดเล็กในระดับชุมชนชนบท และมีประวัติเล่าขานกันว่า ในสมัยนั้นมีเรือสินค้าขนาดใหญ่ได้บรรทุกสินค้ามาเต็มลำเรือเพื่อที่จะนำมาค้าขายกับเมืองท่าต่างๆ ซึ่งประจวบเหมาะกับเป็นช่วงหน้าน้ำหลากไหลแรงมาก และลำน้ำเจ้าพระยาบริเวณนั้นเป็นลักษณะท้องคุ้ง (โค้งคดเคี้ยว) อยู่แล้ว จึงเป็นเหตุทำให้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ดังกล่าวได้อับปางลงบริเวณคุ้งน้ำแห่งนี้ คุ้งน้ำนี้จึงเป็นคำเรียกขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า “คุ้งสำเภา” หรือ “ตำบลคุ้งสำเภา” ในปัจจุบัน และเหตุการณ์บ้านเมืองก็ค่อยมีความเจริญขึ้นมาเรื่อยๆจนกระทั่งมีการปฏิรูปการปกครองมาเป็นท้องถิ่นเช่นในปัจจุบัน เป็นองค์การบริหารส่วนตำบล คุ้งสำเภา มีทำเลที่ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 3ตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท
อีกตำนานนึงกล่าวว่า
.........มีเรื่องเล่าสืบกันมาว่า มีพ่อค้าหนุ่มชาวจีนจากกรุงศรีอยุธยา นำเรือสินค้ามาค้าขายจนถึงเมืองนครสวรรค์เป็นประจำและได้มาพักแรมที่เมืองมโนรมย์ทุกครั้งทั้งขาขึ้นและขาล่อ วันหนึ่งได้พบหญิงสาวสวยชาวเมืองมโนรมย์มาซื้อสินค้าทั้งสองคนเกิดชอบพอกันและสัญญาว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันฝ่ายชายจึงจัดผู้ใหญ่มาสู่ขอโดยจัดขบวนขันหมากมาจากกรุงศรีอยุธยาโดยจัดเรือสำเภาเป็นขบวนขันหมาก เมื่อขบวนเรือมาถึงคุ้งวังน้ำวนอันเกิดจากการที่แม่น้ำสะแกกรังไหลมาบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาได้เกิดกระแสลมแรงคลื่นลูกใหญ่ซัดสาดเรือสำเภอล่มลง เจ้าบ่าวและคนทั้งปวงจมลงไปในกระแสน้ำอันเชี่ยวกรากนั้นเมื่อเจ้าสาวทราบเรื่องก็เสียใจ จึงผูกคอตายตามคนรักไป ชาวบ้านจึงตั้งชื่อคุ้งน้ำวนนี้ว่าคุ้งสำเภา
ตำบลคุ้งสำเภามีตำนานเล่าขานกันมาช้านานตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษว่า...ในสมัยนั้นมีการทำการค้าขายกันทางเรือ ตำบลคุ้งสำเภาเป็นเมืองท่าขนาดเล็กในระดับชุมชนชนบท และมีประวัติเล่าขานกันว่า ในสมัยนั้นมีเรือสินค้าขนาดใหญ่ได้บรรทุกสินค้ามาเต็มลำเรือ เพื่อที่จะนำมาค้าขายกับเมืองท่าต่างๆ ซึ่งประจวบเหมาะกับเป็นช่วงหน้าน้ำหลากไหลแรงมาก และลำน้ำเจ้าพระยาบริเวณนั้นเป็นลักษณะท้องคุ้ง (โค้งคดเคี้ยว) อยู่แล้ว จึงเป็นเหตุทำให้เรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ดังกล่าวได้อับปางลงบริเวณคุ้งน้ำแห่งนี้ จึงเป็นคำเรียกขานกันมาจนถึงทุกวันนี้ว่า “คุ้งสำเภา” หรือ “ตำบลคุ้งสำเภา” ในปัจจุบัน "
ศาลเจ้าพ่อกวนอู เป็นศาลที่ประดิษฐานเจ้าพ่อกวนอู ซึ่งเป็นไม้แกะสลัก และองค์รักษ์เจ้าพ่อกวนอู 2 องค์อยู่ด้านข้าง ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนและชาวไทยในตำบลคุ้งสำเภา อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท เป็นศาลเจ้าเก่าแแก่คู่กับชาวมโนรมย์มาเป็นเวลายาวนานกว่า 200 ปี สร้างขึ้นในสมัย รัชกาลที่ 3 ซุ้มประตูไม้แกะสลักเป็นรูปตุ๊กตาชาวจีนอันงดงาม
ยามเช้าที่ อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท บริเวรตั้งแต่ทางลงโป๊ะ ยาวไปจน สุดวัด จะมีพ่อค้าแม่ค้า นำสินค้าและจัดเตรียมร้าน เพื่อรอลูกค้า ซึ่งเป็นชาวบ้าน และนักท่องเที่ยว มาจับจ่ายซื้อของกัน มีทั้งอาหารสด และอาหารสำเร็จ ที่นี่ มีผักพื้นบ้านสดๆ ที่ปลูกเอง และผลไม้มากมาย ถือว่าเป็นตลาดเช้าที่ใหญ่มากอีกที่หนึ่งในจังหวัดชัยนาท