ประวัติความเป็นมา
เนื่องจากผ้าฝ้ายย้อมครามเป็นการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษจะมีความรู้ความสามารถ ที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาแต่ครั้ง ปู ย่า ตา ยาย โดยการทอผ้าด้วยมือไว้ใช้เอง ซึ่งเรียกว่าผ้าฝ้ายย้อมครามซึ่งแต่เดิมจะเย็บด้วยมือ เป็นเสื้อผ้าสวมใส่สำหรับผู้หญิงส่วนผู้ชายจะทอเป็นผ้าขาวม้าใส่นุ่งแบบโจง กะเบน หรือผ้าเตี่ยว การทอผ้าฝ้ายได้จากนวลของดอกฝ้ายที่บานเต็มที่นำมากรอหือเข็นเป็นเส้นฝ้าย และย้อมน้ำคราม และนำมาทอเป็นผ้า สืบทอดมาจนถึงปัจจุบันจึงเกิดการรวมกลุ่มทอผ้าย้อมสีธรรมชาติขึ้นเพื่อทอผ้า จำหน่ายเป็นรายได้เสริมจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่งได้แก่ ผ้าพื้นเมือง ผ้าคลุมไหล่ ผ้าปูโต๊ะ ผ้าพันคอ ผ้ามัดหมี่ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ
ขั้นตอนการทำ
วัสดุอุปกรณ์
๑.หูก
๒. ฟืม
๓. กง
๔. อัก
๕. หลักตีนกง
๖. หลา
๗. กระสวย
๘. หลอดใส่ด้าย
๙. หลักเฟีย
๑๐. โฮงมี่
๑๑. น้ำคราม
๑๒. ฝ้ายเข็นมือ
ขั้นตอนในการทอผ้า
1. สืบเส้นด้ายยืนเข้ากับแกนม้วนด้ายยืน และร้อยปลายด้ายแต่ละเส้นเข้าในตะ กอแต่ละชุดและฟันหวี ดึงปลายเส้นด้ายยืนทั้งหมดม้วนเข้ากับแกนม้วนผ้าอีกด้านหนึ่ง ปรับความตึงหย่อนให้พอเหมาะ กรอด้ายเข้ากระสวยเพื่อใช้เป็นด้ายพุ่ง
2. เริ่มการทอโดยกดเครื่องแยกหมู่ตะกอ เส้นด้ายยืนชุดที่ 1 จะถูกแยก ออกและเกิดช่องว่าง สอดกระสวยด้ายพุ่งผ่าน สลับตะกอชุดที่ 1 ยกตะกอชุดที่ 2 สอดกระสวยด้ายพุ่งกลับ ทำสลับกันไปเรื่อย ๆ
3. การกระทบฟันหวี (ฟืม) เมื่อสอดกระสวยด้ายพุ่งกลับก็จะกระทบ ฟันหวี เพื่อให้ด้ายพุ่งแนบติดกัน ได้เนื้อผ้าที่แน่นหนา 4. การเก็บหรือม้วนผ้า เมื่อทอผ้าได้พอประมาณแล้วก็จะม้วนเก็บใน แกนม้วนผ้า โดยผ่อนแกนด้ายยืนให้คลายออกและปรับความตึงหย่อนใหม่ให้พอเหมาะ
ประโยชน์
1.เป็นผ้าที่สามารถแปรรูปได้หลากหลาย
2.ได้สร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน
การสืบสานต่อ
เป็นการสืบทอดมาจากบรรพบุรุษจะมีความรู้ความสามารถ ที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาแต่ครั้ง ปู ย่า ตา ยาย โดยการทอผ้าด้วยมือไว้ใช้เอง และดัดแปลงลวดลายต่างๆพัฒนาลายให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น
แหล่งข้อมูล กลุ่มทอผ้ามัดหมี่บ้านหนองบัวบาน
นางเตือนใจ รัตนะ ประธานกลุ่ม
ที่อยู่
กลุ่มทอผ้ามัดหมี่บ้านหนองบัวบาน ต.หนองบัว อ.นิคมน้ำอูน จ.สกลนคร