ข้อมูล และอาการของไวรัสแต่ละสายพันธุ์
โควิดสายพันธุ์อินเดีย
ความกังวลต่อโควิด 19 สายพันธุ์อินเดีย
- เชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดีย มักแพร่กระจายลงสู่หลอดลมส่วนลึกและถุงลม ซึ่งแตกต่างจากสายพันธุ์เดิมที่แพร่กระจายในโพรงจมูกและลำคอ
- สามารถติดเชื้อได้เร็วขึ้นและแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น
- เชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียสามารถหลีกหนีภูมิคุ้มกันจากวัคซีนได้
- ภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ ไม่สามารถยับยั้งเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดียได้ และต้องติดตามว่าส่งผลทำให้เกิดการอักเสบที่อันตรายต่อเนื้อเยื่อและทุกระบบของร่างกายมากขึ้น
ข้อกังวลจากทางการแพทย์
1. เชื้อชอบลงลึกถึงในปอด ทำให้แหย่จมูกไปก็ไม่เจอ
2. กระบวนการตรวจ RT-PCR อาจจับได้ไม่หมด เพราะรหัสพันธุกรรมเพี้ยน ดังนั้น ถ้าแพร่ไปอาจมีปัญหากับวัคซีน
ขณะนี้การคัดกรองที่เร็วที่สุด คือ การตรวจเลือดว่าติดเชื้อหรือไม่ เช่น ตรวจด้วย อีไลซา (ELISA) โรงพยาบาลมากมายก็มี และทำง่ายกว่าการแหย่จมูก ถ้าตรวจเลือดเป็นบวกโดยยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ก็ให้แยกตัวทันทีและกักตัว 14 วัน
โควิดสายพันธุ์อังกฤษ
*ตอบสนองดีที่สุดแก่วัคซีนของ Astra Zeneca
อาการผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ จะเหมือนกับโควิดสายพันธุ์ธรรมดา จะต่างกันก็คือมีระยะเวลาฟักตัวนานกว่า 14 วัน ติดต่อกันง่าย และรวดเร็วกว่า 1.7 เท่า โดยมาตรการในการป้องกันยังคงเป็นมาตรการทางสาธารณสุข และมาตรการส่วนบุคคล ได้แก่ การใส่หน้ากาก ล้างมือ รวมถึงการฉีดวัคซีน
โควิดสายพันธุ์แอฟริกาใต้
อาการเหมือนโรคโควิด-19 ทั่วไป ความรุนแรงไม่มากกว่าหรือน้อยกว่า โดยร้อยทั้งร้อยยังไม่พบผู้เสียชีวิตจากสายพันธุ์นี้ในประเทศไทย (24/5/2564) โดยมาตรการในการป้องกันยังคงเป็นมาตรการทางสาธารณสุข และมาตรการส่วนบุคคล ได้แก่ การใส่หน้ากาก ล้างมือ รวมถึงการฉีดวัคซีน ความสามารถในการกระจายของโรค ใกล้เคียงกับสายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย (อังกฤษ และอินเดีย)
ข้อมูลจาก https://www.bbc.com/thai/thailand-57219638