โดยปกติการผ่าตัดเพื่อสำรวจและเย็บซ่อมกระเพาะปัสสาวะในโค-กระบือ จะต้องดึงกระเพาะปัสสาวะให้โผล่ออกมาที่ขอบแผลเพื่อทำการสำรวจรอยรั่วและเย็บซ่อม แต่ในกรณีโค-กระบือที่มีช่องท้องขนาดใหญ่ หรือกระเพาะปัสสาวะหดเกร็งไม่มีความยืดหยุ่น จะไม่สามารถดึงกระเพาะปัสสาวะมาที่ขอบแผลได้ ซึ่งปัญหาดังกล่าวที่ผ่านมาส่วนใหญ่ จะใช้วิธีนำสองมือเข้าไปล้วงคลำกระเพาะปัสสาวะ และคลำเย็บโดยที่มองไม่เห็นตัวกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งมีข้อด้อยคือต้องเปิดแผลผ่าตัดขนาดใหญ่เพื่อให้สองมือเข้าได้ และการมองไม่เห็นตัวกระเพาะปัสสาวะ อาจทำให้เย็บปิดรอยรั่วได้ไม่สนิท
ดังนั้นสำหรับในเคสนี้ ทางทีมสัตวแพทย์ ได้พัฒนานำเทคนิค HALS (Hand Assisted Laparoscopic Surgery) ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดแบบหนึ่งของทางการแพทย์ มาปรับใช้กับการผ่าตัดทางสัตวแพทย์สำหรับกระบือรายนี้ โดยจะทำการเปิดแผลขนาดที่สามารถใช้มือหนึ่งข้างล้วงเข้าไปในช่องท้องได้ และจะเป็นทางเพื่อระบายน้ำปัสสาวะออกจากช่องท้อง (ในเคสนี้ระบายน้ำออกมาประมาณ 100 ลิตร) จากนั้นใช้กล้องส่อง (laparoscope) เข้าไปสำรวจรอยรั่วที่กระเพาะปัสสาวะ โดยใช้มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปจับประคองกระเพาะปัสสาวะ อีกข้างถือกล้องสำรวจให้เห็นภาพทั่วทั้งกระเพาะปัสสาวะ จากนั้นเมื่อพบรอยรั่วที่กระเพาะปัสสาวะ จึงทำการสอดเครื่องมือที่ใช้สำหรับผ่าตัดผ่านกล้องเข้าไปเย็บปิดกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งข้อดีของวิธีการนี้ จะสามารถทำให้ผู้ทำการผ่าตัดมองเห็นภาพในการเย็บตัวกระเพาะปัสสาวะที่อยู่ลึกในช่องท้องของกระบือได้ ผ่านทางจอภาพ ทำให้เย็บปิดรอยรั่วของกระเพาะปัสสาวะได้อย่างสนิทดีและไม่มีรั่วซึม อีกทั้งยังทราบสาเหตุว่าที่กระบือรายนี้เกิดการรั่วของกระเพาะปัสสาวะนั้น เกิดมาจากนิ่วที่อุดตันท่อทางเดินปัสสาวะส่วนลึงค์ สัตวแพทย์จึงทำการสวนล้างและคีบนิ่วดังกล่าวออกจากท่อปัสสาวะ และทำการฝังท่อระบายปัสสาวะจากตัวกระเพาะปัสสาวะออกมาผ่านทางผนังหน้าท้อง (tube cystotomy) โดยการผ่าตัดครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
CREDIT: ผศ.ดร.สุวลักษณ์ ศรีสุภา และทีมงานคลินิกสัตว์ใหญ่