บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ เป็นการศึกษาความเป็นไปได้ในการหล่อเครื่องประดับจากพลาสติกโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพในการผลิตเครื่องประดับ ช่วยลดเวลาในกระบวนการผลิตและลดต้นทุนในการผลิตให้กับสถานประกอบการโดยนำเทคโนโลยีการฉีดขึ้นรูปพลาสติกมาปรับใช้กับการผลิตเครื่องประดับ ในการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการทดลองหล่อทั้งหมด 3 การทดลอง คือ 1.การหล่อเครื่องประดับจากขี้ผึ้งและพลาสติกสีขาวเพื่อเปรียบเทียบคุณภาพผิวของชิ้นงานโดยใช้พารามิเตอร์เช่นเดียวกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 2.การหล่อเปรียบเทียบระหว่างปูนสองชนิด 3.การหล่อเครื่องประดับจากพลาสติกชนิดอื่นๆ (พลาสติกสีขาวและพลาสติกสีฟ้า) ในการทดลองหล่อทั้ง 3 ครั้งจะทำการจับเวลาที่ใช้ในกระบวนการแต่งและขัดเครื่องประดับเพื่อเปรียบเทียบเวลาที่ลดลงและมีการชั่งน้ำหนักก่อนและหลังกระบวนการแต่งและขัดเพื่อคำนวณโลหะที่สูญเสียไปในกระบวนการผลิต นอกจากนี้ยังมีการวิเคราะห์ประเภทและคุณสมบัติของพลาสติกสีขาวและสีฟ้าด้วย FT-IR, TGA และ DSC
ผลการศึกษาพบว่า ในทดลองที่ 1 ชิ้นงานที่หล่อจากพลาสติกสีขาวมีจุดบกพร่องมากกว่าที่หล่อจากขี้ผึ้งโดยวิเคราะห์ว่าอาจเกิดจากปูนที่ใช้ การทดลองที่ 2 พลาสติกสีขาวสามารถหล่อเครื่องประดับได้คุณภาพที่ดีด้วยการใช้ปูนสำหรับหล่อเรซิ่น แต่เนื่องจากปูนสำหรับหล่อเรซิ่นมีราคาสูงกว่าปูนที่ใช้ในปัจจุบันจึงไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการลดต้นทุนการผลิต ในการทดลองการหล่อที่ 3 พบว่าพลาสติกชนิดสีฟ้าสามารถหล่อเครื่องประดับโดยสามารถใช้ปูนที่สถานประกอบการใช้อยู่ในปัจจุบันได้และได้คุณภาพผิวของเครื่องประดับที่ดีกว่าการหล่อเครื่องประดับจากขี้ผึ้ง ทั้งนี้จากการจับเวลาในกระบวนการแต่งและขัดชิ้นงาน ชิ้นงานที่หล่อจากพลาสติกใช้เวลาในกระบวนการผลิตน้อยกว่าชิ้นงานที่หล่อจากขี้ผึ้งคิดเป็น 25.10% ของเวลาในการแต่งและ 35.75% ของเวลาในการขัด และเปอร์เซ็นต์การสูญเสียโลหะในกระบวนการผลิตของชิ้นงานที่หล่อจากพลาสติกน้อยกว่าชิ้นงานที่หล่อจากขี้ผึ้งคิดเป็น 17.64% ของโลหะที่สูญเสียการแต่งและ 47.36% ของโลหะที่สูญเสียในการขัด ในการวิเคราะห์ประเภทและคุณสมบัติของพลาสติกพบว่า พลาสติกสีขาวและสีฟ้าเป็นพลาสติกชนิดโพลิเอทิลีนความหนาแน่นต่ำเหมือนกัน พลาสติกสีฟ้ามีจุดหลอมเหลวต่ำกว่าพลาสติกสีขาวและในอุณหภูมิที่ 540 องศาเซลเซียส พลาสติกสีฟ้าจะเผาไหม้หมดแต่พลาสติกสีขาวจะยังเผาไหม้ได้ไม่หมด โดยการศึกษาครั้งนี้สามารถลดต้นทุนให้กับสถานประกอบการคิดเป็นมูลค่า 98,748 บาทต่อปี