บทคัดย่อ

ร้านอนิกา จิวเวลรี่ (Anika Jewelry) ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2562 โดย นางสาวกัณฐิกา เทพณรงค์ เป็นเจ้าของกิจการ มีความชำนาญการในด้านอัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงการออกแบบเครื่องประดับที่สามารถสวมใส่ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำเครื่องประดับมาประกบกันจนเกิดลวดลายใหม่ หรือแม้แต่ใส่เครื่องประดับชิ้นเดียวก็สง่างามและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง กลุ่มเป้าหมายเป็นผู้หญิงวัยทำงาน ที่มีการเลือกซื้อเครื่องประดับที่มีความหลากหลาย ทันสมัย เครื่องประดับที่ออกแบบมีลักษณะโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร และสามารถใส่ในชีวิตประจำวันได้

ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคหลักของกิจการคือ กลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ที่มีอายุอยู่ในช่วง 23-39 ปี มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 20,001-30,000 บาท อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย รูปแบบการสวมใส่ที่เรียบง่าย ทันสมัย มีความเป็นเอกลักษณ์ สวมใส่ในชีวิตประจำวัน เพื่อความสวยงาม แสดงถึงสถานะ ชอบออกงานสังคม มีความเชื่อในด้านการเสริมสิริมงคล โอกาสซื้อในการ เพื่อมอบเป็นของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานเฉลิมฉลอง ซึ่งปัจจัยในการเลือกซื้อเครื่องประดับ คือ คุณภาพสินค้าและราคาที่เหมาะสม และการออกแบบสินค้าที่มีความทันสมัย

กิจการใช้เงินลงทุนทั้งหมด 10,000,000 บาท โดยมาจากการกู้ยืมธนาคาร 5,000,000 บาท และเงินทุนส่วนของเจ้าของกิจการ 5,000,000 บาท ซึ่งในปี พ.ศ. 2562 กิจการมีผลกำไรในปีแรก 11,982,830 บาท โดยกิจการมีระยะคืนทุน 8 เดือน 4 วัน

แผนการปรับปรุงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางร้าน Anika Jewelry มีทั้งหมด 4 ด้าน คือด้านผลิตภัณฑ์ มีการวางแผนขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้กว้างขึ้น เพื่อเป็นการเจาะตลาดให้ทั่วถึง และเป็นที่ยอมรับ เพิ่มสินค้าให้มีหลายชนิด หลายประเภทเพื่อตอบสนองกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยคำนึงถึงพฤติกรรมของผู้บริโภค และการใช้งานที่เหมาะสม ด้านราคาการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แรงงานคน เพื่อลดต้นทุนในการผลิต ซึ่งราคาวัตถุดิบอาจจะมีการผันผวน แต่ทางกิจการจะรักษาราคาเดิมไว้เพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้ให้ได้มากที่สุด ด้านช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ในอนาคตจะมีการขยายสาขาเพิ่มอีก 3 สาขา ดังนี้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World), สยามพารากอน (Siam Paragon), ไอคอนสยาม (ICONSIAM) ด้านส่งเสริมการตลาด ร้าน Anika Jewelry จะมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า โดยการเพิ่มส่วนลดให้กับยอดสั่งซื้อที่มีจำนวนมากสำหรับลูกค้าสมาชิก มีการโปรโมทหลายช่องทาง เช่น นิตยสาร, ยูทูป (Youtube), เฟซบุ๊ก (Facebook) และอินสตาแกรม (Instagram) เพื่อขยายพื้นที่ให้เจอกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วถึงทุกพื้นที่