ศาลเจ้าพ่อเสือ
ศาลเจ้าพ่อเสือ ตั้งอยู่ หมู่ที่ 10 ตำบลโนนห้อม อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีประวัติความเป็นมา คือ นาย ปัญญา มหานุกูล ปัจจุบันอายุ 72 ปี เกิดที่มีนบุรี เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของนายเซิงกุ่ย และ นางคาเชิง มีพี่น้อง รวม 9 คน ตั้งแต่เยาว์วัยได้เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ย่านประตูน้ำ เป็นเด็กประจำร้านขายยา หลังจากนั้นได้ใช้เงินที่เก็บออมต่างๆ และเปิดร้านขายยาเป็นของตัวเอง ชื่อว่าห้างขายยานุกูลฟาร์มาซี พร้อมกับได้สมรสกับนางนวรัตน์ มหานุกูล อยู่ที่ซอยกิ่งจันทร์ หรือ ตรอกนายก กิจการรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆประกอบกับเริ่มสร้างครอบครัว โดยมีบุตรชาย 3 คน และบุตรสาว 1 คน ซึ่งบุตรชายคนโต ชื่อนายสมศักดิ์ มหานุกูล เป็นคนชอบช่วยเหลือ และรักพวกพ้องที่เจริญเติบโตในธุรกิจยาไทย - จีนด้วยดี มีการร่วมทำธุรกิจช่วยเหลือพึ่งพาซึ่งกันและกัน จนเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เมื่อได้ให้เพื่อนร้านขายยาด้วยกันยืม เช็ค พร้อมทั้งเซ็นต์ค้ำประกัน จนเป็นที่มาแห่งหนี้สิน ในช่วงชีวิตดังกล่าวเป็นช่วงต่ำสุด และยากลำบากของชีวิต และธุรกิจ ทั้งบ้านรถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆก็ทยอยถูกขาย ถูกยึด และลูกๆก็กำลังอยู่ในวัยเล่าเรียน ซึ่งลูกชายทั้ง 3 คน กำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนอัสสัมชัญกรุงเทพ (ประถม) และบุตรสาวก็กำลังจะเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ท่านตัดสินใจต่อสู้ และก้มหน้าใช้หนี้สินที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ขึ้นลงขึ้นศาล แม้กระทั่งถูกตำรวจจับจ่ายเช็คไม่มีเงิน แต่กำลังใจของครอบครัวและบุตรที่กำลังเจริญเติบโต ทำให้ท่านได้ต่อสู้และไม่ท้อแท้ จนกระทั่งท่านมีโอกาสได้เดินทางไปประเทศจีนจากคำชักชวนของเพื่อนสนิทที่เติบโตในวงการยาสมุนไพรจีน มาด้วยกัน ก็คือ คุณหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม ทั้งค่าเดินทาง ค่าที่พัก คุณหมอเป็นผู้รับผิดชอบให้ทั้งสิ้น นาย ปัญญา มหานุกูล จึงได้ร่วมเดินทางไปประเทศจีนกับเพื่อนๆท่านอื่นๆ ไปไหว้ศาลเฮียงบูซัว (เจ้าพ่อเสือ) ตอนนั้นท่านลำบากมาก ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ก็ได้บนกับเจ้าพ่อเสือว่าอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ท่านไปไหว้เจ้าพ่อเสือ และก็บนอย่างเดียวกันทุกๆครั้ง ปีละครั้ง เป็นเวลา 3 ปี ติดต่อกัน อยู่มาวันหนึ่งเพื่อนของท่าน ก็คือหมอณรงค์ พุ่มโพธิ์งาม ก็เอ่ยปากชวนท่านไปดูบ้าน ก็บอกไปว่า ท่านไม่มีเงินดาวน์ ไม่ซื้อ คุณหมอก็บอกว่า “กูจะซื้อให้มึง”
ท่านก็ยังบอกต่อไปอีกว่า ไม่เอา เพราะว่าจะเอาเงินที่ไหนผ่อน คุณหมอก็ยัง พูดต่อไปอีกว่าไม่เป็นไร “กูจะผ่อนให้มึง” ซึ่งได้รำลึกถึงคำขอของท่านต่อ ตั้วเหล่าเอี้ย (เจ้าพ่อเสือ) เสมอ ท่านช่างศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่กล่าวในใจว่าถ้าสามารถลืมตาอ้าปากได้ จะทำทุกอย่างเพื่อเป็นคุณาปรารถนาต่อเจ้าพ่อเสือ ซึ่งเป็นที่มาของการเคารพ และศรัทธาต่อองค์ตั้วเหล่าเอี้ย ของคนในครอบครัวทั้งลูกชายและลูกสาว
ต่อมาลูกชายคนโตของนายปัญญา มหานุกูล มีโอกาสได้ไปจังหวัดปราจีนบุรี ไปเห็นศาลเจ้าพ่อเสือ ก็ไปไหว้ และได้พบผู้ดูแลที่นั่น ชื่อคุณหยางเซิง แซ่ลี้ บอกว่าศาลจะถูกย้าย เพราะเจ้าของที่ดินต้องการใช้ที่ จากนั้นลูกชายคนโต คือ คุณสมศักดิ์ ก็มาเล่าให้ฟัง และพาไปกราบไหว้ และรู้สึกศรัทธาเหมือนองค์จริงที่ประเทศจีน จึงได้บอกคุณหยาง ไปว่าจะหาที่ดินใกล้บริเวณนั้น จะสร้างศาลเจ้าพ่อเสือให้ใหม่ จึงเป็นที่มาของการจัดสร้างศาลเจ้าพ่อเสือ จังหวัดปราจีนบุรี
ข้อมูลเนื้อหา / เรียบเรียง โดย นางสาวสุวรรณา แย้มดี
ภาพถ่าย/ภาพประกอบ โดย http://www.bangkokideaeasy.com/informations/61nonhom