แหล่งเรียนรู้ “สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน”

ณ วัดธรรมาภิมุข หมู่ที่ บ้านทุ่งพีด ตำบลวังตะเคียน อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด

“สุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน” ที่ทุกคนเข้าใจว่ามีถิ่นกำเนิดเดิมในจังหวัดตราดและภาคตะวันออก ตรงกับคำขวัญของจังหวัดตราดที่กล่าวว่า ”เมืองเกาะครึ่งร้อย พลอยแดงค่าล้ำ ระกำแสนหวาน หลังอานหมาดี ยุทธนาวีเกาะช้าง สุดทางบูรพา” ซึ่งคนจังหวัดตราดนิยมเลี้ยงสุนัขพื้นบ้าน แต่ไทยหลังอานมีลักษณะพิเศษเฉพาะคือมีขนเป็นเส้นย้อนกลับที่เส้นกลางหลัง ในขณะที่สุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ในกลุ่มเดียวกันไม่มี และมีคนจากจังหวัดเห็นและชื่นชมนำไปเลี้ยง และเป็นที่นิยมมากขึ้นสุนัขหลังอานจึงกลายเป็นสิ่งที่มีค่า มีราคา และในช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายคนต้องหยุดงาน หรือกิจกรรมต่างๆนอกบ้านจึงต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจทำให้มีเวลาในการเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ และเริ่มมีการพัฒนาสายพันธุ์ ด้วยการผสมพันธุ์เพื่อขายลูก เพาะเลี้ยงพ่อพันธุ์สวยๆ เพื่อรับผสมพันธุ์ จนกระทั่งสุนัขไทยหลังอานทั้งสี่สายพันธุ์ได้แก่ สีแดงเข้ม (สีเม็ดมะขาม) สีสวาด สีกลีบบัว สีดำ ได้รับการจดทะเบียนกับสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัข (ประเทศไทย) ต่อมาสมาคมได้ยื่นจดทะเบียนกับสมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) และได้รับการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์เป็นสุนัขพันธุ์แท้ของโลกเมื่อปี ๒๕๖๓

สีกลีบบัว

สีแดงเข้ม (สีเม็ดมะขาม)

สีสวาด

สีดำ


และพระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) เจ้าอาวาสวัดธรรมาภิมุข หมู่ที่ ๖ บ้านทุ่งพีด ตำบลวังตะเคียน อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและอยากที่จะพัฒนาวัดเป็นแหล่งเรียนรู้ จึงเลือก“สุนัขพันธ์ไทยหลังอาน” มาเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ เพื่อให้ญาติโยมจากต่างจังหวัดได้เห็นถึงความงามของสุนัขสายพันธุ์ไทยพื้นบ้านและเป็นไปตามคำขวัญของจังหวัดตราด โดยพระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) เริ่มเลี้ยงจริงจังเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๖๑โดยนำพ่อพันธุ์ แม่พันธ์ ที่คัดเลือกลักษณะดี เด่นๆ ผสมที่มีลักษณะเด่น เช่น ขนสีแดงเข้ม (สีเม็ดมะขาม) สีสวาด สีกลีบบัว สีดำและแห่งเรียนรู้ในวัดธรรมาภิมุข มีสุนักพันธุ์ไทยหลังอาน ครบทั้งสี่สายพันธุ์ ได้แก่ สีแดงเข้ม (สีเม็ดมะขาม) สีสวาด สีกลีบบัว สีดำ ลักษณะเด่นของสุนักพันธุ์ไทยหลังอาน คือมีฉลาดล้ำ มีเอกลักษณ์ 9 อย่าง คือ หน้าดำ เล็บดำ ลิ้นดำ หางดำ(ปลายหางมีลักษณ์สามเหลี่ยม กลางหางมีสีดำ)ปากทู่ ตัวสั้น หูตั้ง หลังอาน หางดาบ ต่อปีพระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) สามารถเพาะพันธุ์ได้เป็นจำนวนมาก ข้อควรคำนึงในการเพาะพันธุ์ ๑. ไม่ผสมสายพันธุ์ที่ใกล้ชิดกันมาก เช่น พ่อแม่กับลูก พี่น้องที่เป็นครอกเดียวกัน และต้องคัดเลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ให้มีคุณสมบัติครบสมบูรณ์มาผสมพันธุ์กัน การผสมพันธุ์ทำได้ปีละ 2 รอบ ๒. การคัดเลือกแม่พันธุ์ควรอายุ ๑ ปีขึ้นไป แต่ละครอกจะเลือกลูกสุนัขไว้เพื่อเป็นพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ไว้ 3. ให้ใช้วิธีทำหมัน แทนการกินยาคุม

พระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า การเลี้ยงดูสุนัขไทยหลังอาน ควรเลี้ยงขังในกรงหรือระบบปิด ป้องกันติดเห็บ หมัด กรงต้องโปร่งมีอากาศถ่ายเท ต้องล้างทำความสะอาด การให้ อาหารที่ไม่ควรให้กิน คือ กระดูกไก่ ไก่ต้ม ทำให้ขนร่วง และอาหารที่มีความเค็ม อาหารควรเป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูปทุกครั้งไป วัคซีนควรให้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด และควรมีการปล่อยออกจากกรงเพื่อให้ออกกำลังกายคลายเครียด เพราะธรรมชาติของสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย เลี้ยงง่าย พระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) กล่าวว่าสุนัขไทยหลังอาน เพาะมีนิสัยน่ารัก ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ รักบ้าน และเลี้ยงง่าย แข็งแรง สุนัขที่มีอยู่ในวัดธรรมาภิมุขก็ได้มีการส่งประกวด ทำให้คนรู้จักและนิยมเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยหลังอานมากขึ้น ขณะนี้พระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) มีความตั้งใจที่จะอนุรักษ์และขยายพันธุ์ พร้อมทั้งเตรียมขยายพื้นที่บริเวณวัดธรรมาภิมุข จัดทำเป็นศูนย์เรียนรู้สุนัขพันธุ์ไทยหลังอานของวัดธรรมาภิมุข หมู่ที่ 6 บ้านทุ่งพีด ตำบลวังตะเคียน อำเภอเขาสมิง จังหวัดตราด ร่วมกับภาคีเครือข่ายในชุมชน และจะมุ่งพัฒนากิจกรรมดีๆอย่างต่อเนื่อง และสิ่งที่สำคัญเพื่อญาติธรรมที่มาวัดธรรมาภิมุข นอกจากจะได้รับความรู้ทางธรรมแล้วยังสามารถได้รับความรู้การเลี้ยงสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน ที่หาดูได้จากทางวัดธรรมาภิมุข


ผู้ให้ข้อมูล พระครูภาวนาปัจจันตเขต(เสรี) เจ้าอาวาสวัดธรรมาภิมุข

ผู้เรียบเรียง นางสาวณฐมน หกยอด ครูกศน.ตำบล