การขยายกระบวนการจัดการงานอาชีพในชุมชน
เรื่องที่ 3 : การขยายกระบวนการจัดการงานอาชีพในชุมชน
1. การกำหนดแนวทางขยายอาชีพ
1.1 เหตุผลการขยายขอบข่ายอาชีพ เหตุผลความจำเป็นในอาชีพที่กล่าวไว้ในเบื้องต้นสามารถสรุปเหตุผลของการขยายขอบข่ายอาชีพได้ ดังนี้
1. สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ
2. สภาพแวดล้อมทางสังคม
3. สภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรม
4. สภาพแวดล้อมทางสิ่งแวดล้อม
ในการปฏิบัติเหตุผลในการขยายขอบข่ายอาชีพ ในแต่ละสภาพแวดล้อมนั้นไม่อิสระต่อกัน แต่มีความเชื่อมโยงผูกพันกัน และเป็นไปเพื่อการเพิ่มรายได้ของอาชีพหลักที่จะผลิตผลมาหมุนเวียนเปลี่ยนรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ดังตัวอย่างตามแผนภูมินี้
1.2 ความคิดรวบยอดของหลักการขยายอาชีพ
ในการกำหนดแนวทางขยายอาชีพ เราควรสรุปกิจกรรมหลักของการขยายอาชีพให้มองเห็นชัดเจนเป็นความคิดรวบยอดที่ประกอบด้วย ปัจจัยนำเข้าเพื่อการขยายอาชีพ คืออะไร กระบวนการผลิตทำอย่างไรและสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น ดังตัวอย่างนี้
จากแผนภูมิสามารถอธิบายได้ว่า ความคิดรวบยอดของการขยายขอบข่ายอาชีพ เป็นการขยายอาชีพมาจากการใช้ยอดและหัวมันเทศไม่ได้มาตรฐาน มาแปรรูปเป็นอาหารให้หมูกิน ใช้เวลาเลี้ยงไม่เกิน 4 เดือนจะได้น้ำหนักเฉลี่ยตัวละ 90 กก.
1.3 วิเคราะห์พอเพียงในการดำเนินงาน
เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากผู้เรียน สามารถหาเหตุผลและสร้างความคิดรวบยอดได้ แล้วนำความเข้าใจมาวิเคราะห์หาปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรการผลิต ประกอบด้วย ผลผลิตที่จะทำการลดต้นทุน และตัวแปรความพอเพียงที่ประกอบด้วยความมีเหตุผล ความพอเพียง ภูมิคุ้มกัน ความรอบรู้และคุณธรรม ผลการวิเคราะห์จะทำให้มองเห็นสิ่งที่เกิด และสิ่งที่จะต้องทำในขอบเขตของความพอเพียง ดังนี้
ตัวอย่าง : ตารางแสดงผลการวิเคราะห์หาปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรกิจกรรมขยายอาชีพกับตัวแปรเศรษฐกิจพอเพียง
1.4 การกำหนดแนวทางขยายอาชีพ
หลังจากนำความคิดรวบยอดการขยายขอบข่ายอาชีพมาวิเคราะห์ความพอเพียงในการดำเนินการจะทำให้เราเห็นสภาพปฏิสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรการผลิตกับตัวแปรปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่จะบอกให้เรารู้ว่าความคิดการขยายอาชีพเหมาะสมที่จะทำหรือไม่จากตัวอย่างการวิเคราะห์เราจะพบว่าตัวแปรทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจะควบคุมความคิดของเราให้อยู่ในขอบข่ายที่เหมาะสมมีภูมิคุ้มกัน โอกาสประสบความสำเร็จมีสูง
การกำหนดแนวทางของอาชีพ จึงอาศัยความรู้ที่ได้จากผลการวิเคราะห์มากำหนดโดยใช้วงจร I-P-O(ปัจจัยนำเข้า-กระบวนการ-ผลผลิต) เป็นฐานในการกำหนดแนวทางขยาย อาชีพดังตัวอย่างนี้
จากแนวทางการขยายอาชีพดังกล่าวนี้ จะทำให้เรามองเห็นภาพชีวิตของงานอย่าง แจ่มชัดด้วยตนเองสามารถนำไปสู่การเรียนรู้เพื่อการขยายขอบข่ายอาชีพสู่ความเข้มแข็ง ยั่งยืนต่อไป
1.5 การจัดการความรู้
กรอบความคิดการจัดการความรู้
จากรูปสามารถอธิบายได้ว่า การจัดการความรู้เป็นรูปแบบที่มีองค์ประกอบร่วม คือองค์กรหรือบุคคลในการประกอบอาชีพ กรอบความรู้ของอาชีพ และการปฏิบัติการอาชีพที่มีเป้าหมายสร้างความเข้มแข็ง มั่นคงยั่งยืนให้กับอาชีพ ดังนั้นการประกอบอาชีพจึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนากรอบความรู้ของตนเองให้ยกระดับความรู้พอเพียงที่จะใช้ปฏิบัติการ สร้างอาชีพสู่ความเข้มแข็งยั่งยืนของกลุ่มอาชีพจากสาระข้างต้นอาจจะสรุปรูปแบบการจัดการความรู้ได้เป็น 2 ขั้นตอน คือ
1. การยกระดับความรู้ของการประกอบอาชีพ
2. การปฏิบัติการใช้ความรู้สร้างความเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน ให้อาชีพ (จะกล่าวในบทต่อไป)
การยกระดับความรู้ของการประกอบอาชีพ เป็นกิจกรรมจัดการกรอบความรู้ของการประกอบอาชีพให้ยกระดับความรู้สูงขึ้นเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ปฏิบัติการในระบบของธุรกิจอาชีพให้เกิดความเข้มแข็ง ยั่งยืน ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5 กิจกรรม คือ
1. กำหนดหัวข้อความรู้เพื่อใช้พัฒนาธุรกิจอาชีพว่าควรจะมีหัวข้อความรู้อะไรบ้าง ที่สามารถครอบคลุมใช้พัฒนาการดำเนินสู่ความเข้มแข็งมั่นคงยั่งยืนได้
2. การแสวงหาความรู้ เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการระบุหัวข้อความรู้ คณะทำงานของกลุ่มอาชีพจะต้องปฏิบัติการสืบค้นข้อมูลสารสนเทศจากภูมิปัญญาในกลุ่มอาชีพและแหล่งความรู้ต่าง ๆ โดยใช้กระบวนการ ดังนี้
3. การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อสรุปแนวทางการพัฒนาเป็นกิจกรรมที่ให้คณะทำงานแยกกันไปแสวงหาความรู้ ทำผลสรุปความรู้ หลักฐานร่องรอยต่าง ๆ มานำเสนอแลกเปลี่ยนเรียนรู้และร่วมกันสรุปจัดเข้าระบบงานที่เป็นรูปแบบแนวทางเพื่อการพัฒนา
4. การประยุกต์ใช้ความรู้ เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยการนำรูปแบบแนวทางมาทดลองประยุกต์ใช้ความรู้ ความจริง บันทึกผลการทดลอง ทดลองซ้ำ จนมั่นใจในข้อมูล นำผลการทดลองที่ได้แล้วประเมินสรุปผล
5. การสรุปองค์ความรู้ เป็นการนำข้อมูลสารสนเทศ ผลสรุปการทดลองมาเขียนเป็นเอกสารคู่มือดำเนินงานที่ประกอบด้วย
1) ภาพรวมระบบของงาน
2) ระบุคุณภาพและมาตรฐานของผลผลิตที่ต้องเกิดขึ้น
3) ระบุกิจกรรมแสดงขั้นตอนการจัดการปฏิบัติการใช้ภาษาที่รัดกุม สามารถเรียนรู้ทำตามได้
4) ระบุปัจจัยดำเนินงานและมาตรฐานที่ต้องการเอกสารคู่มือดำเนินงานหรือองค์ความรู้ จะเป็นเอกสารความรู้ใช้ดำเนินงานและควบคุมการทำงานให้เกิดคุณภาพได้ จึงเป็นความรู้ที่ถูกยกระดับให้สูงขึ้นเป็นระยะ ๆ อย่างต่อเนื่อง ใช้ปฏิบัติการสร้างความสำเร็จความเข้มแข็ง มั่นคง ยั่งยืน ให้กลุ่มอาชีพ