ภูมิปัญญาท้องถิ่น

จุดเริ่มต้นและความพยายามในการเดินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงเกิดเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิต

เริ่มต้นด้วยการแต่งงานเมื่ออายุ 26 ปี สร้างครอบครัวโดยการประกอบอาชีพทำงานโรงงาน ในจังหวัดสมุทรปราการ พอได้เงินจำนวนหนึ่ง จึงได้กลับมาบ้าน ทำสวนมะม่วงแบบยกร่อง แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงออกไปหางานทำใหม่ ที่ต่างจังหวัดอีกครั้ง แต่ด้วยความเป็นห่วงครอบครัว จึงได้กลับบ้านมาอีกครั้งและประกอบอาชีพค้าขาย คือ ขายส้มโอ ซึ่งประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ส้มโอที่ขายนั้น รับมาจากสวนคนอื่น จึงเกิดความคิดอยากจะปลูกส้มโอขายเอง จึงได้เริ่มทำสวนส้มโอ และปลูกพืชผักพันธุ์ชนิดต่างๆมากมาย แทรกระหว่างต้นส้มโอ แล้วให้ภรรยาเป็นผู้ดูแลสวน ตนก็ได้ไปหางานทำที่ต่างจังหวัดอีกครั้ง ที่จังหวัดจันทบุรี ในระหว่างรอผลผลิตของส้มโอ และระหว่างนั้นได้ไปเที่ยวชมสวนที่จังหวัดจันทบุรีหลายครั้ง จึงเกิดแรงบันดาลใจอยากจะทำสวนให้ประสบผลสำเร็จเหมือนเขาบ้าง อีกทั้งได้ศึกษาเรียนรู้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงจากในหลวง รัชกาลที่ 9 จึงได้กลับมาพัฒนาสวนส้มโอโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้เป็น "เกษตรสวนผสมผสาน" จนประสบผลสำเร็จ ในปัจจุบัน โดยได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ประมาณ 450,000 บาท ต่อปี

สวนแห่งนี้มีเนื้อที่ประมาณ 6 ไร่ ปัจจุบันในสวนปลูกพืชหลากหลายชนิด เช่น ส้มโอ ผักหวานป่า กล้วย มะม่วง ฝรั่ง และปลูกไม้ไว้ใช้สอย เช่น พยุง ตะเคียนทอง ยางนา มะค่าโมง ไม้พะยอม เป็นต้น ซึ่งภายในสวนสามารถเก็บผลผลิตออกจำหน่ายได้ทั้งปี และยังมีสระน้ำที่เลี้ยงปลา กบ ไว้จำหน่าย อีกทั้งมีการผลิตฮอร์โมนต่างๆ ไว้ใช้เอง เช่น ฮอร์โมนบำรุงพืช สารกำจัดศัตรูพืช ที่เป็นกระบวนการหมักทางชีวภาพ เพื่อลดต้นทุนในการผลิต มีการทำเตาเผาถ่าน เพื่อนำเศษไม้จากการตัดทิ้ง บริเวณสวนมาเผาเป็นถ่าน เพื่อนำไปจำหน่าย และทำน้ำส้มควันไม้จากการเผาถ่านด้วย จึงบอกได้เลยว่า สวนแห่งนี้ เป็นการทำเกษตรสวนผสมผสาน ที่ครบวงจร