1. ชื่อแหล่งท่องเที่ยว
บ่อพันขัน
2. ประเภทแหล่งท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
3. รายละเอียดของแหล่งท่องเที่ยว
บ่อพันขัน แหล่งโบราณสถานพื้นที่ร้อยจิตใจของคนในชุมชนทุ่งกุลาร้องไห้เป็นพื้นที่แหล่งอารยธรรมที่สำคัญ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำขนาดเล็กบนหินทรายแดง กว้าง 6 นิ้ว ลึก 12 นิ้ว มีน้ำใสไหลออกมาตลอด รสชาติจืดสนิททั้งที่อยู่ท่ามกลางแหล่งหินเกลือใต้ดินพื้นที่ดังกล่าวนอกจากจะเป็นสถานที่ร้อยรัดจิตใจของชุมชนแล้ว ยังเป็นศูนย์การค้าและแหล่งผลิตเกลือสินเธาว์ในอดีต ซึ่งถือเป็นศูนย์การค้าเกลือที่สำคัญของชุมชนไทย ลาว และเขมรการทำเกลือนับเป็นอาชีพที่สำคัญของคนทุ่งกุลาร้องไห้ในยุคแรกเริ่มเมื่อ 2,500 ปีมาแล้ว และแหล่งต้มเกลือที่สำคัญที่สุดของพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ คือ บ่อพันขัน ตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพื้นที่การผลิตเกลือแห่งนี้ อีกด้านหนึ่งเป็นแหล่งหินตัดขนาดใหญ่ที่ชุมชนสมัยโบราณน่าจะตัดเพื่อนำไปก่อสร้างศาสนสถานที่อยู่เรียงรายลำเสียวพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ อาทิ กู่คันธนาม อำเภอโพนทราย กู่พระธาตุพันขัน กู่พระโกนา อำเภอสุวรรณภูมิ กู่กาสิงห์ กู่บ้านเมืองบัว อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด
เมื่อครั้งที่สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จเยี่ยมมณฑลอีสาน เคยดำรัสไว้ว่า หากใครมามณฑลร้อยเอ็ดแล้ว ไม่เคยเห็นบ่อพันขันก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงร้อยเอ็ด หลักฐานที่สนับสนุนให้เห็นถึงความสำคัญบ่อพันขันอีกชิ้นหนึ่งคือการขุดพบฐานศิวลึงค์จารึกด้วยอักษรปัลลวะที่กล่าวนามพระเจ้าจิตรเสน ที่ดอนขุมเงิน บ้านหนองคูณ ตำบลเด่นราษฎร์ กิ่งอำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด แสดงให้เห็นถึงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสภาพที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจนี้เอง ทำให้กลุ่มชนได้อพยพเข้าสู่พื้นที่มากขึ้น และส่งผลต่อการผลิตเกลือมากขึ้นตามลำดับและผลิตกันอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมีการสร้างชลประทานขนาดเล็กเพื่อกักเก็บน้ำไว้สำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตร หมู่บ้านท้ายอ่างเก็บน้ำบ่อพันขันเมื่อปี พ.ศ.2524 เกิดเป็นอ่างเก็บน้ำบ่อพันขันขึ้น ซึ่งการสร้างชลประทานขึ้นนับเป็นการปิดฉากตำนานการทำเกลืออย่างถาวรของชุมชนแห่งนี้ และด้วยเหตุผลที่ว่าจะมีการกั้นเขื่อนเพื่อให้ราษฎรในพื้นที่ทำการเกษตร แต่ความจริงแล้วน้ำที่กั้นไว้กลับมีรสเค็มไม่สามารถนำน้ำไปทำการเกษตรได้ ส่งผลให้กลุ่มชนเกิดการเคลื่อนไหวแรงงานสู่ภูมิภาคต่างๆ มีการนำเข้าสิ่งของนานาชนิดกระทั่งระบบความเชื่อ หรือแม้แต่เรื่องการแต่งงานด้วยเป็นเหตุให้โครงสร้างทางสังคมและวัฒนธรรมเปลี่ยนไป ประเพณีและพิธีกรรมการเลี้ยงบ่อ หลังฤดูต้มเกลือ ได้ลดบทบาทและความสำคัญลง ยังคงเหลือเพียงผู้เฒ่าวัยเจ็ดสิบกว่าปี ที่ยังรักษาสืบสานประเพณีพิธีเลี้ยงบ่อไว้
ในปี พ.ศ.2547 คงจะเป็นปีที่มีนิมิตหมายที่ดีต่อชาวบ้านในพื้นที่และชาวจังหวัดร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียงที่เคยได้รับผลผลิตของแหล่งเกลือแห่งนี้ ที่จังหวัดร้อยเอ็ดและชาวบ้านในพื้นที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันฟื้นฟูสภาพบ่อพันขันให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง และคงอยู่คู่กับจังหวัดร้อยเอ็ดตลอดไป โดยเฉพาะเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สำคัญ ทั้งตำนานของการต้มเกลือสินเธาว์ที่ใช้ทำปลาร้าคุณภาพดี แหล่งเพราะปลูกข้าวหอมมะลิของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ส่งออกไปขายทั่วโลก
4. สถานที่ตั้ง (พิกัด) ของแหล่งท่องเที่ยว
ตั้งอยู่หมู่ที่ 12 บ้านม่วงหวาน ตำบลเด่นราษฎร์ อำเภอหนองฮี จังหวัดร้อยเอ็ด รหัสไปรษณีย์ 45140
5. สื่อประกอบ
6. ผู้บันทึกข้อมูล
นางสาธิกา แพงชารี
(ครู กศน.ตำบลเด่นราษฎร์)