ชุมชนบ้านควนโดนใน
“ชุมชนบ้านควนโดนใน” เทศบาลตำบลควนโดน จังหวัดสตูล เป็นหนึ่งในชุมชนที่มีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นอกจากการสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนให้แก่คนในชุมชนอันถือเป็นรากฐานที่มีความสำคัญแล้ว ยังใช้หลักปฏิบัติของศาสนาเข้ามาสอดแทรกและประยุกต์ใช้ให้เข้ากับหลักการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนได้อย่างมีความละเอียดอ่อน แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
“ชุมชนบ้านควนโดนใน” เทศบาลตำบลควนโดน จังหวัดสตูล เป็นหนึ่งในชุมชนที่มีการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ นอกจากการสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนให้แก่คนในชุมชนอันถือเป็นรากฐานที่มีความสำคัญแล้ว ยังใช้หลักปฏิบัติของศาสนาเข้ามาสอดแทรกและประยุกต์ใช้ให้เข้ากับหลักการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนได้อย่างมีความละเอียดอ่อน แต่เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ
(ข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม) ชุมชนบ้านควนโดนใน คืออีกหนึ่งชุมชนเข้มแข็งที่เข้าร่วมชุมชนปลอดขยะ และสามารถดำเนินงานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนประสบผลสำเร็จ และเป็นชุมชนตัวอย่างที่สามารถคว้ารางวัลโครงการประกวดชุมชนปลอดขยะ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 80 ชุมชน ชนะเลิศระดับประเทศในปี 2555 และได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(ข้อมูลจาก : กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม) ชุมชนบ้านควนโดนใน คืออีกหนึ่งชุมชนเข้มแข็งที่เข้าร่วมชุมชนปลอดขยะ และสามารถดำเนินงานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนประสบผลสำเร็จ และเป็นชุมชนตัวอย่างที่สามารถคว้ารางวัลโครงการประกวดชุมชนปลอดขยะ เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 80 ชุมชน ชนะเลิศระดับประเทศในปี 2555 และได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
“ปัญหาขยะของชุมชนควนโดนในก็ไม่ถึงขั้นวิกฤติเท่าไหร่ แต่คนในชุมชนอยากมีกิจกรรมร่วมกัน อยากทำกิจกรรมที่เป็นในทิศทางเดียวกัน และอยากให้ชุมชนควนโดนในเข้าสู่ชุมชนที่ปลอดขยะอย่างแท้จริง จะจัดกิจกรรมตามรูปแบบของขยะที่มีการคัดแยกในครัวเรือนนะครับ ประเภทที่ 1 ขยะทั่วไป รณรงค์ในเรื่องของการลดใช้พลาสติก ขยะอินทรีย์ ชุมชนแนะนำให้ชาวบ้านไปใช้เลี้ยงสัตว์ หรือว่า ทำปุ๋ย ทำแก๊สหมักชีวภาพ ขยะอันตราย ก็นำมาแลกเป็นของใช้ หรือเมล็ดพันธ์พืช ผัก และก็ขยะที่ถือว่ามีมากที่สุด คือขยะรีไซเคิล ก็จะนำมาสู่ระบบของธนาคารวัสดุรีไซเคิลของชุมชน” นายบัญชา มาลินี ประธานชุมชนบ้านควนโดนใน กล่าวถึงที่มาของการจัดการขยะของชุมชนบ้านควนโดนใน
“ปัญหาขยะของชุมชนควนโดนในก็ไม่ถึงขั้นวิกฤติเท่าไหร่ แต่คนในชุมชนอยากมีกิจกรรมร่วมกัน อยากทำกิจกรรมที่เป็นในทิศทางเดียวกัน และอยากให้ชุมชนควนโดนในเข้าสู่ชุมชนที่ปลอดขยะอย่างแท้จริง จะจัดกิจกรรมตามรูปแบบของขยะที่มีการคัดแยกในครัวเรือนนะครับ ประเภทที่ 1 ขยะทั่วไป รณรงค์ในเรื่องของการลดใช้พลาสติก ขยะอินทรีย์ ชุมชนแนะนำให้ชาวบ้านไปใช้เลี้ยงสัตว์ หรือว่า ทำปุ๋ย ทำแก๊สหมักชีวภาพ ขยะอันตราย ก็นำมาแลกเป็นของใช้ หรือเมล็ดพันธ์พืช ผัก และก็ขยะที่ถือว่ามีมากที่สุด คือขยะรีไซเคิล ก็จะนำมาสู่ระบบของธนาคารวัสดุรีไซเคิลของชุมชน” นายบัญชา มาลินี ประธานชุมชนบ้านควนโดนใน กล่าวถึงที่มาของการจัดการขยะของชุมชนบ้านควนโดนใน
การจัดการขยะภายในชุมชนบ้านควนโดนในนั้น จะเน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้านภายในชุมชน พร้อมทั้งดึงเอาทุกภาคส่วนที่อยู่ในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการขยะทั้ง 4 ประเภทในชุมชน ผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างมีระบบ ได้แก่ ขยะรีไซเคิล (กระดาษ พลาสติก โลหะ อโลหะ แก้ว) ครัวเรือนในชุมชนจะคัดแยก และนำมาร่วมกิจกรรมธนาคารขยะรีไซเคิล ซึ่งจะเปิดเดือนละ 1 ครั้ง ขยะอินทรีย์ในครัวเรือน (เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้) ครัวเรือนจะคัดแยกเพื่อไปทำน้ำหมักชีวภาพ แก๊สชีวภาพจากเศษอาหาร หรือทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ ขยะอันตราย (หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์) คณะทำงานจะประชาสัมพันธ์ให้ครัวเรือนคัดแยก และนำมาร่วมกิจกรรมขยะอันตรายแลกของใช้ หรือเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว และสุดท้ายได้แก่ ขยะทั่วไป ซึ่งได้แก่ ถุงพลาสติก ซองขนมกรุบกรอบต่างๆ จะรณรงค์ให้ชุมชนใช้ถุงผ้าจ่ายตลาด และการรณรงค์ร้านค้าในชุมชนร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก เป็นต้น โดยหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยขบวนการใฝ่หาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูลขึ้น เช่นการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านทำสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุรีไซเคิล เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้มาสู่ครอบครัว และยังเป็นการลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
การจัดการขยะภายในชุมชนบ้านควนโดนในนั้น จะเน้นการมีส่วนร่วมของชาวบ้านภายในชุมชน พร้อมทั้งดึงเอาทุกภาคส่วนที่อยู่ในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการขยะทั้ง 4 ประเภทในชุมชน ผ่านกิจกรรมต่างๆ อย่างมีระบบ ได้แก่ ขยะรีไซเคิล (กระดาษ พลาสติก โลหะ อโลหะ แก้ว) ครัวเรือนในชุมชนจะคัดแยก และนำมาร่วมกิจกรรมธนาคารขยะรีไซเคิล ซึ่งจะเปิดเดือนละ 1 ครั้ง ขยะอินทรีย์ในครัวเรือน (เศษอาหาร เศษผัก ผลไม้) ครัวเรือนจะคัดแยกเพื่อไปทำน้ำหมักชีวภาพ แก๊สชีวภาพจากเศษอาหาร หรือทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ ขยะอันตราย (หลอดไฟ ถ่านไฟฉาย กระป๋องสเปรย์) คณะทำงานจะประชาสัมพันธ์ให้ครัวเรือนคัดแยก และนำมาร่วมกิจกรรมขยะอันตรายแลกของใช้ หรือเมล็ดพันธุ์พืชผักสวนครัว และสุดท้ายได้แก่ ขยะทั่วไป ซึ่งได้แก่ ถุงพลาสติก ซองขนมกรุบกรอบต่างๆ จะรณรงค์ให้ชุมชนใช้ถุงผ้าจ่ายตลาด และการรณรงค์ร้านค้าในชุมชนร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก เป็นต้น โดยหาทางให้ชีวิตหลุดพ้นจากความทุกข์ยาก ด้วยขบวนการใฝ่หาความรู้ให้มีรายได้เพิ่มพูลขึ้น เช่นการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านทำสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุรีไซเคิล เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหารายได้มาสู่ครอบครัว และยังเป็นการลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
ผลจากการจัดการขยะอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม นอกจากชุมชนมีความสะอาดและน่าอยู่แล้ว การจัดการขยะของชุมชนยังเชื่อมโยงไปสู่การจัดกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนอีกหลายๆ กิจกรรม ได้แก่ ในด้านสวัสดิการ มีการนำรายได้จากการบริหารจัดการธนาคารขยะรีไซเคิลมาจัดสวัสดิการแก่สมาชิกในชุมชน ในการคลอดบุตร การเจ็บป่วย การเสียชีวิต เป็นต้น ในด้านเศรษฐกิจ สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ ได้มีการนำมาทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ หรือทำแก๊สชีวภาพ ลดรายจ่ายภายในครอบครัว และที่เห็นชัดเจนอย่างกลุ่มเบเกอรีในชุมชน ที่ต้องจ่ายค่าแก๊สหุงต้มในการทำขนมเดือนละ 10,000 บาท หลังจากมาใช้แก๊สชีวภาพมาใช้ร่วม ทำให้มีรายจ่ายในส่วนนี้เพียง 6,000 บาท ด้านสุขภาพ ได้มีการต่อยอดจากกิจกรรมธนาคารขยะมาสู่ธนาคารสุขภาพ โดยในวันที่สมาชิกในชุมชนนำขยะรีไซเคิลมาร่วมกิจกรรม คณะทำงานจะมีบริการตรวจคัดกรองสุขภาพให้ เช่น วัดรอบเอว ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เป็นต้น ด้านสังคม กิจกรรมการจัดการขยะจะส่งเสริมให้เยาวชนในชุมชนได้มีส่วนร่วม ทำให้เกิดกิจกรรมที่สร้างสรรค์แก่เยาวชน และสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชนในชุมชน
ผลจากการจัดการขยะอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม นอกจากชุมชนมีความสะอาดและน่าอยู่แล้ว การจัดการขยะของชุมชนยังเชื่อมโยงไปสู่การจัดกิจกรรมต่างๆ ในชุมชนอีกหลายๆ กิจกรรม ได้แก่ ในด้านสวัสดิการ มีการนำรายได้จากการบริหารจัดการธนาคารขยะรีไซเคิลมาจัดสวัสดิการแก่สมาชิกในชุมชน ในการคลอดบุตร การเจ็บป่วย การเสียชีวิต เป็นต้น ในด้านเศรษฐกิจ สามารถลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้ โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ ได้มีการนำมาทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ หรือทำแก๊สชีวภาพ ลดรายจ่ายภายในครอบครัว และที่เห็นชัดเจนอย่างกลุ่มเบเกอรีในชุมชน ที่ต้องจ่ายค่าแก๊สหุงต้มในการทำขนมเดือนละ 10,000 บาท หลังจากมาใช้แก๊สชีวภาพมาใช้ร่วม ทำให้มีรายจ่ายในส่วนนี้เพียง 6,000 บาท ด้านสุขภาพ ได้มีการต่อยอดจากกิจกรรมธนาคารขยะมาสู่ธนาคารสุขภาพ โดยในวันที่สมาชิกในชุมชนนำขยะรีไซเคิลมาร่วมกิจกรรม คณะทำงานจะมีบริการตรวจคัดกรองสุขภาพให้ เช่น วัดรอบเอว ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เป็นต้น ด้านสังคม กิจกรรมการจัดการขยะจะส่งเสริมให้เยาวชนในชุมชนได้มีส่วนร่วม ทำให้เกิดกิจกรรมที่สร้างสรรค์แก่เยาวชน และสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่เยาวชนในชุมชน
แต่สำหรับไฮไลท์การจัดการขยะของชุมชนบ้านควนโดนใน นั่นคือ “ร้านศูนย์บาท” ภายนอกก็ดูเป็นร้านค้าปกติทั่วไป แต่ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ก็คือ เราสามารถจับจ่ายซื้อของในร้านนี้โดยไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้วัสดุเหลือใช้หรือขยะรีไซเคิลมาแลกกับสินค้าภายในร้านนั่นเอง
แต่สำหรับไฮไลท์การจัดการขยะของชุมชนบ้านควนโดนใน นั่นคือ “ร้านศูนย์บาท” ภายนอกก็ดูเป็นร้านค้าปกติทั่วไป แต่ที่แตกต่างอย่างสร้างสรรค์ก็คือ เราสามารถจับจ่ายซื้อของในร้านนี้โดยไม่ต้องใช้เงิน แต่ใช้วัสดุเหลือใช้หรือขยะรีไซเคิลมาแลกกับสินค้าภายในร้านนั่นเอง
ชุมชนบ้านควนโดนใน มิได้เพียงแค่การบริหารจัดการขยะภายในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังมีการดำเนินงานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งชุมชนมีการดำเนินกิจกรรมโดยส่งเสริมความสามัคคีในชุมชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีการปลูกผักปลอดสารพิษ กิจกรรมการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านทำสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ และส่งเสริมกลุ่มอาชีพเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งนายบัญชา มาลินี ประธานชุมชนควนโดนใน ได้ให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มในชุมชนให้ได้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในชุมชนของตนเอง โดยได้แบ่งพื้นที่ย่อยในชุมชน และให้คณะทำงานได้ร่วมกันในการจัดการขยะในพื้นที่ในแต่ละโซนของตนเองที่รับผิดชอบ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการจัดการขยะและกิจกรรมอื่นๆ ภายในชุมชนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ชุมชนควนโดนในมีปริมาณขยะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ชุมชนมีความสะอาด ชาวบ้านเกิดคุณภาพชีวิตที่ดี และเกิดสิ่งแวดล้อมที่สวยงามในชุมชน ทำให้ชุมชนบ้านควนโดนใน ได้รับรางวัลในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนจากหน่วยงานอื่นๆ เป็นจำนวนมาก อาทิ
ชุมชนบ้านควนโดนใน มิได้เพียงแค่การบริหารจัดการขยะภายในชุมชนอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังมีการดำเนินงานตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งชุมชนมีการดำเนินกิจกรรมโดยส่งเสริมความสามัคคีในชุมชนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีการปลูกผักปลอดสารพิษ กิจกรรมการจัดตั้งกลุ่มแม่บ้านทำสิ่งประดิษฐ์จากวัสดุเหลือใช้ และส่งเสริมกลุ่มอาชีพเพื่อสร้างรายได้ ซึ่งนายบัญชา มาลินี ประธานชุมชนควนโดนใน ได้ให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มในชุมชนให้ได้มีส่วนร่วมในการจัดการขยะในชุมชนของตนเอง โดยได้แบ่งพื้นที่ย่อยในชุมชน และให้คณะทำงานได้ร่วมกันในการจัดการขยะในพื้นที่ในแต่ละโซนของตนเองที่รับผิดชอบ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการจัดการขยะและกิจกรรมอื่นๆ ภายในชุมชนได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ชุมชนควนโดนในมีปริมาณขยะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ชุมชนมีความสะอาด ชาวบ้านเกิดคุณภาพชีวิตที่ดี และเกิดสิ่งแวดล้อมที่สวยงามในชุมชน ทำให้ชุมชนบ้านควนโดนใน ได้รับรางวัลในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชนจากหน่วยงานอื่นๆ เป็นจำนวนมาก อาทิ
– ชนะเลิศโครงการชุมชนปลอดขยะ ขนาดกลาง ปี 2555
– ชนะเลิศโครงการชุมชนปลอดขยะ ขนาดกลาง ปี 2555
– ศูนย์เรียนรู้ชุมชนปลอดขยะบ้านควนโดนใน
– ศูนย์เรียนรู้ชุมชนปลอดขยะบ้านควนโดนใน
– แหล่งเรียนรู้เครือข่ายสังคมรีไซเคิล
– แหล่งเรียนรู้เครือข่ายสังคมรีไซเคิล
– แหล่งเรียนรู้การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน จังหวัดสตูล
– แหล่งเรียนรู้การจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน จังหวัดสตูล
– โล่เชิดชูเกียรติ พื้นที่ต้นแบบในการจัดการสิ่งแวดล้อม (ด้านการจัดการขยะ) ปี 2558
– โล่เชิดชูเกียรติ พื้นที่ต้นแบบในการจัดการสิ่งแวดล้อม (ด้านการจัดการขยะ) ปี 2558
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ระดับประเทศ ประเภทชุมชน โครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา ปีที่ 8 (TOYOTA-TEI) ปี 2556
– รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ระดับประเทศ ประเภทชุมชน โครงการลดเมืองร้อนด้วยมือเรา ปีที่ 8 (TOYOTA-TEI) ปี 2556
– รางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ ประเภทพี่เลี้ยง โครงการจัดตั้งธนาคารวัสดุรีไซเคิล 400 ชุมชน ปี 2553 (สภาอุตสาหกรรม)
– รางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ ประเภทพี่เลี้ยง โครงการจัดตั้งธนาคารวัสดุรีไซเคิล 400 ชุมชน ปี 2553 (สภาอุตสาหกรรม)
– ศูนย์เรียนรู้การเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดสตูล
– ศูนย์เรียนรู้การเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดสตูล
– หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข”
– หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เป็นสุข”
การพัฒนาชุมชนควนโดนในเป็นวิธีการร่วมมือกันทำงานของหน่วยงานที่สนับสนุนการพัฒนาของชุมชนและความร่วมมือของคนในชุมชน โดยยึดหลักการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ชุมชนเป็นศูนย์กลาง ชาวบ้านเป็นผู้ปฏิบัติโดยใช้กระบวนการจัดทำแผนชุมชนของตัวเอง เพื่อเป็นเครื่องมือดำเนินกิจกรรมต่างๆ พัฒนาให้เป็นไปตามความต้องการของชุมชน ณ วันนี้ ชุมชนบ้านควนโดนใน ได้กลายเป็นพื้นที่ตัวอย่างสำหรับการศึกษาเรียนรู้ให้แก่ชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศในแง่ของการบริหารจัดการขยะและการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชน และพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชน และจิตสำนึกที่ดีที่มีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อ
การพัฒนาชุมชนควนโดนในเป็นวิธีการร่วมมือกันทำงานของหน่วยงานที่สนับสนุนการพัฒนาของชุมชนและความร่วมมือของคนในชุมชน โดยยึดหลักการใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง ชุมชนเป็นศูนย์กลาง ชาวบ้านเป็นผู้ปฏิบัติโดยใช้กระบวนการจัดทำแผนชุมชนของตัวเอง เพื่อเป็นเครื่องมือดำเนินกิจกรรมต่างๆ พัฒนาให้เป็นไปตามความต้องการของชุมชน ณ วันนี้ ชุมชนบ้านควนโดนใน ได้กลายเป็นพื้นที่ตัวอย่างสำหรับการศึกษาเรียนรู้ให้แก่ชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศในแง่ของการบริหารจัดการขยะและการจัดการสิ่งแวดล้อมชุมชน และพร้อมที่จะส่งมอบสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยความรัก ความสามัคคีของคนในชุมชน และจิตสำนึกที่ดีที่มีต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่อ
นายบัญชา มาลินี (ประธานชุมชนควนโดนใน) นายวุฑฒิเวช เจยระนัย (ผู้ประสานงาน) 081-7980838
นายบัญชา มาลินี (ประธานชุมชนควนโดนใน) นายวุฑฒิเวช เจยระนัย (ผู้ประสานงาน) 081-7980838