จากวันที่ยังรวมตัวเป็น “กลุ่มเล่าฝัน” ตามประสาเด็กหนุ่มที่ฝันจะกลับมาสร้างอาชีพของตัวเองในชุมชนและพัฒนาบ้านเกิดไปด้วย พวกเขาเติบโตและพร้อมเปลี่ยนความฝันให้เป็นจริง การรวมตัวกันอีกครั้งในปี พ.ศ.2562 จึงเกิดขึ้น
“หลังจากแต่ละคนหมดสัญญาจ้างแรงงานที่ต่างประเทศก็กลับมาเจอกันมาพูดคุยกันอีก หลายคนเริ่มทำตามความฝันตัวเองแล้ว ก็ชวนกันคิดจริงจังที่จะทำความฝันร่วมกันให้ชุมชน โดยตกลงเริ่มจากการเลี้ยงไก่ไข่ ซึ่ง เป็นอาหารที่ทุกบ้านต้องกิน เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าจะซื้อง่ายขายคล่อง” ยุทธศักดิ์ ยืนน้อย แกนนำกลุ่มแม่ทาล่าฝันและประธานกลุ่มแม่ทาออร์แกนิค ต.แม่ทา อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ ย้อนความถึงที่มาของกลุ่มและจุดเริ่มของการเลี้ยงไก่ไข่
ชุมชนแม่ทาเป็นพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์มายาวนาน แต่ยังไม่มีผลผลิตไก่ไข่ปลอดภัย กลุ่มฯ จึงต้องการผลักดันการเลี้ยงไก่ไข่ให้เกิดขึ้นในชุมชน อย่างน้อยได้ไข่ที่ปลอดภัยไว้บริโภคในครัวเรือน หากเหลือก็ขายในชุมชนหรือส่งขายในตัวเมือง ซึ่งแนวคิดนี้ได้ถูกพัฒนาเป็นโครงการและได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ
“เราตั้งเป้าการทำงานของโครงการให้เกิดการเกื้อหนุนอาชีพของคนในชุมชน มีกลุ่มคนปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อินทรีย์ส่งให้เราเพื่อเป็นอาหารให้ไก่ และมีกลุ่มเลี้ยงหนอนเอามาขายให้กลุ่มผู้เลี้ยงไก่ เนื่องจากอาหารสัตว์อินทรีย์หายากและราคาแพง”
Cr. ( https://www.nstda.or.th/agritec/bsf-case-study)
หนอนที่ยุทธศักดิ์พูดถึง คือหนอนแมลงทหารดำ หรือที่มักเรียกว่า หนอน BSF (Black Soldier Fly) ซึ่งเขาและเพื่อนสมาชิกศึกษาข้อมูลแล้วว่ามีโปรตีนสูงเป็นอาหารเสริมให้ไก่ได้ จึงอาศัยความรู้จากอินเทอร์เน็ตและศึกษาดูงานที่ฟาร์มเลี้ยงหนอนแมลงทหารดำในเชียงใหม่แล้วกลับมาทดลองเลี้ยงเอง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ จากนั้นได้รู้จัก สวทช. ซึ่งกำลังมองหากลุ่มชุมชนเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการเลี้ยงหนอนทหารดำลดต้นทุนค่าอาหารสัตว์ จึงนำมาสู่การทำงานร่วมกันในโครงการการเพาะเลี้ยงแมลงทหารดำเพื่อลดต้นทุนค่าอาหารไก่ไข่อินทรีย์ “ชุมชนต้นแบบ BCG แม่ทาโมเดล: ขยะแลกไข่”