ในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ในงานธนาคารนั้น แต่ละธนาคารอาจระบุวัตถุประสงค์แตกต่างกันออกไป เช่น บางธนาคารนำคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อเปลี่ยนทัศนคติของประชาชนต่อธนาคารนั้น จากธนาคารโบราณมาเป็นธนาคารทันสมัย บางธนาคารนำคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อพยายามดำรงความเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี บางธนาคารนำคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อให้สามารถขยายงานได้รวดเร็ว และควบคุมการบริหารงานให้รัดกุมขึ้น เป็นต้น ในธุรกิจการธนาคารจะแข่งขันการนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็ว โดยสรุปแล้ว อาจจะกล่าวได้ว่า สถาบันการเงินต่างๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้แข่งขันกันนำคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อประโยชน์สำคัญ ๓ ประการ คือ
ประการที่หนึ่ง เพื่อช่วยให้บริการลูกค้าประจำได้สะดวกรวดเร็ว
ประการที่สอง เพื่อให้สามารถเสนอบริการใหม่ๆ ในรูปแบบ และเวลาที่ลูกค้าประจำต้องการ และให้ลูกค้าประจำสามารถเข้าใจได้โดยง่าย
และประการที่สาม เพื่อช่วยให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์สองข้อแรก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเกินไป
ธุรกิจสายการบินมีความจำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาใช้ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก เพื่อให้สามารถให้บริการได้รวดเร็ว ประการที่สอง เพื่อแข่งขันกับสายการบินอื่นๆ และประการที่สาม เพื่อรักษาความปลอดภัยในการบิน โดยช่วยให้สามารถตรวจสอบสภาพเครื่องบิน และอุปกรณ์ได้อย่างถูกต้องแน่นอน และสม่ำเสมอ
ธุรกิจที่มีการนำเอาคอมพิวเตอร์มาใช้ อาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ ๓ ประเภท คือ ประเภทที่หนึ่ง ผู้โดยสาร ประเภทที่สอง สินค้าพัสดุภัณฑ์ และประเภทที่สาม บริการอื่น ๆ เช่น ครัวการบิน สินค้าปลอดภาษี และบริการรับส่งผู้โดยสารภาคพื้นดิน เป็นต้น
บัญชีที่ทำกันโดยทั่วไป ได้แก่ บัญชีเงินเดือน (payroll) การออกใบกำกับสินค้า (invoice) บัญชีลูกหนี้ (account receivable) การรับเงิน (cash receipts) บัญชีเจ้าหนี้ (account payable) การพิมพ์เช็คและหักบัญชี (check writing and reconciliation) เป็นต้น
ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น นอกจากจะใช้คอมพิวเตอร์ทำบัญชีต่างๆ เช่น บัญชีเงินเดือน บัญชีลูกหนี้ และบัญชีเจ้าหนี้แล้ว ก็อาจจะใช้คอมพิวเตอร์ช่วยงานของโรงงานโดยตรง เช่น การจัดส่งสินค้าตามใบสั่ง การควบคุมวัสดุคงคลัง การจัดการผลิต และการคิดราคาต้นทุนสินค้า เป็นต้น
โดยหลักการแล้ว การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการศึกษาอาจแบ่งเป็นประเภทใหญ่ๆ ได้ ๒ ประเภท คือ ใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษา และใช้เป็นเครื่องมือในการสอน
ในปัจจุบันนี้ คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างยิ่งในด้านการแพทย์ เริ่มตั้งแต่การรักษาพยาบาลทั่วๆ ไป โรงพยาบาลบางแห่งใช้คอมพิวเตอร์ในการทำทะเบียนคนไข้ ในด้านการบริหารการแพทย์ อาจจะใช้คอมพิวเตอร์ในการวางแผน และควบคุมการปฏิบัติงาน ทั้งระดับชาติ ระดับภูมิภาคและระดับโรงพยาบาลในด้านการปฏิบัติงานเครื่องมือการแพทย์ในปัจจุบันหลายอย่าง ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดต่างๆ เป็นส่วนประกอบ สำหรับใช้ควบคุมการปฏิบัติงานของเครื่องเหล่านั้น เช่น เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และเครื่องปฏิบัติการทดลองต่างๆ เช่น ตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ เป็นต้น แม้ในด้านการวินิจฉัยโรค ในต่างประเทศก็มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยบันทึกไว้ว่า อาการต่างๆ จะเกิดจากโรคอะไรได้บ้าง นอกจากนี้ในการศึกษา และวิจัยทางการแพทย์ ก็สามารถใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในหลายด้าน ตัวอย่างที่สำคัญตัวอย่างหนึ่งคือ ด้านการใช้หุ่นรถยนต์คอมพิวเตอร์แทนคนในการศึกษาอาการโรค และการตอบสนองวิธีการรักษา เช่น ในด้านโรคหัวใจแบบต่างๆ ถ้าสั่งว่า ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท ก็แสดงอาการของการที่ลิ้นหัวใจปิดไม่สนิท และถ้าฉีดยาให้ ก็แสดงอาการตอบสนองให้นักศึกษาได้ศึกษาผลการฉีดยา เป็นต้น
หมายถึง การติดตามรักษาพยาบาลประชาชนทั่วไป ทุกโรค ทุกระดับอายุ วัตถุประสงค์ที่สำคัญก็คือ เพื่อจะตรวจให้พบว่า คนไข้เป็นโรคอะไรหรือไม่ ถ้าเป็น ก็ควรจะพบตั้งแต่เริ่มเป็น จะได้รักษา และติดตามการรักษาให้อาการทุเลาลง หรือหายขาดจากโรคนั้นๆ ได้ การรักษาพยาบาลทั่วไปนี้ หมายรวมถึง การจัดมาตรการป้องกัน เช่น ปลูกฝี ฉีดยา ป้องกันไม่ให้คนไข้เป็นโรคต่างๆ ที่มีทางป้องกันได้
การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยแก้ปัญหาด้านกฎหมายที่น่าจะมีประโยชน์มากที่สุดอย่างหนึ่งก็คือ การใช้ในงานระบบข้อมูลทางกฎหมาย ในงานนี้เราต้องนำตัวบทกฎหมายทุกฉบับ รัฐธรรมนูญทุกฉบับ กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา กฎกระทรวง กฎ ก.พ. กฎ ก.ม. กฎ ก.ต. ประกาศต่างๆ ฯลฯ สรุปคดีทุกคดีว่า ใครฟ้องใคร เรื่องอะไร ศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาตัดสินว่าอย่างไร เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะช่วยงานได้หลายอย่าง
ทางด้านกองบัญชาการทหารสูงสุด มีศูนย์กรรมวิธีข้อมูล ใช้ในการทำทะเบียนกำลังพล ใช้ในการส่งกำลังบำรุง และใช้ในการทำแบบจำลองสงคราม (war games) ซึ่งอาจจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เราทราบข้อมูลล่วงหน้าได้ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น เราจะต่อสู้ป้องกันได้อย่างไรหรือไม่ จะต้องใช้กำลังคน ใช้อาวุธยุทโธปกรณ์มากน้อยเท่าใด
ทางด้านการตำรวจของไทย มีศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ ซึ่งมีคอมพิวเตอร์ขนาดกลางใช้ทำทะเบียนรถยนต์ ทำทะเบียนใบขับขี่ ทำทะเบียนปืน ทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม ทำงานกำลังพล และทำงานบัญชีของกรมตำรวจ
การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการเกษตรที่สำคัญที่สุดน่าจะเป็นการจัดทำระบบข้อมูลเพื่อการเกษตรซึ่งอาจมีทั้งระดับท้องถิ่นระดับชาติและระดับนานาชาติสำหรับระดับนานาชาตินั้นอาจจะเริ่มด้วยสำมะโนเกษตรนานาชาติซึ่งสถาบันการเกษตรระหว่างประเทศ (International Institute of Agriculture) ได้เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๗๓ โดยมีประเทศต่างๆร่วมเก็บข้อมูลรวม ๔๖ ประเทศ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๓ องค์การอาหารและเกษตร (FAO) ก็รับงานต่อจากสถาบันการเกษตรโดยเก็บสถิติต่างๆ เช่น ขนาดที่ดิน การใช้ที่ดิน จำนวนคนและสัตว์ ผลผลิตจากไร่นา ป่าไม้ และสัตว์น้ำ สำหรับ พ.ศ. ๒๔๙๓ นั้นมีประเทศ และอาณาเขตร่วมโครงการด้วย ๕๒ ประเทศ และ ๕๔ อาณาเขต ข้อมูลต่างๆ ที่เก็บรวบรวมนี้ ถ้าประเทศใดมีทุนพอก็ให้เก็บทั้งหมด ประเทศใดมีทุนไม่พอก็อาจจะใช้วิธีสุ่มตัวอย่าง และวิธีอื่น เมื่อรวมข้อมูลต่างๆ ได้แล้ว ก็จะต้องประมวลข้อมูล ซึ่งประเทศส่วนมากต้องใช้คอมพิวเตอร์ช่วย สำหรับการจัดทำสำมะโนเกษตรในประเทศไทยนั้น เดิมสำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำ และใช้คอมพิวเตอร์ของสำนักงาน ช่วยในการประมวลผล แต่ต่อมาได้มีการพิจารณาที่จะแยกงานสำมะโนเกษตรออกมาต่างหาก จากสำนักงานสถิติแห่งชาติ โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อาจจะจัดทำเอง
การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์ มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะการวิจัยในทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์ (nuclear physics or particle) ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของสสารเรียกว่า อนุภาค (particle) และศึกษาค้นคว้าว่า อนุภาคที่เล็กที่สุดนี้ สามารถรวมตัวกันเป็น สสารชนิดต่างๆ กันได้อย่างไร ด้วยแรงอะไรบ้าง
เริ่มตั้งแต่ตื่นนอน หยิบหนังสือพิมพ์มาอ่าน ปัจจุบันนี้จะพบว่า หนังสือพิมพ์บางฉบับในบ้านเราที่โฆษณาว่า พิมพ์โดยเครื่องพิมพ์คอมพิวเตอร์ ฉะนั้นเราจึงอาจจะเกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้ตั้งใจตั้งแต่เวลาเช้ามืด