Knowledge>General Topics>Choosing air compressor
เราจะผ่านสถานการณ์ COVID-19 ไปด้วยกัน
ณ ปัจจุบันปั๊มลม air compressor ที่ใช้งานอยู่มีในอุตสาหกรรมมีหลายประเภท เช่น อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิตอาหาร อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการประกอบขึ้นรูปชิ้นส่วนต่าง ๆ อุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ ดังนั้นการเลือกปั๊มลม air compressor นั้นจะต้องเลือกให้ถูกต้องและเหมาะกับธุรกิจของผู้ใช้ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ได้ หรือการลงทุนสูงเกินจำเป็น ซึ่งเราสามารถจำแนกระบบของ air compressor ออกได้เป็น 2 ระบบหลักๆ ดังนี้ คือ
ปั๊มลมชนิดปราศจากน้ำมัน มีทั้งชนิด screw type ไปจนถึงชนิดลูกสูบ piston เหมาะสมกับอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มและมีราคาสูง เช่น
ปั๊มลมชนิดที่มีน้ำมันในระบบ ใช้สำหรับระบายความร้อน เหมาะสมกับกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป เช่น
และชนิดของปั๊มลม ที่เป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน หลักๆ แบ่งออกเป็น 2 ชนิดได้ดังนี้
เป็นปั๊มลม air compressor ที่อาศัยลูกสูบเป็นตัวทำลมและสร้างแรงดันเข้าสู่ระบบ โดย air compressor แบบลูกสูบ นี้นิยมใช้กันในอุตสาหกรรมขนาดเล็ก หรือ อุตสาหกรรมที่มีการใช้ลมค่อนข้างน้อย เนื่องจากปั๊มลมชนิดนี้ จะมีการเสียดสีของลูกสูบกับเสื้อสูบตลอดเวลาเมื่อเครื่องทำงาน ถ้าใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ลูกสูบไหม้ได้ โดยปั๊มลมชนิดนี้มีให้เลือกทั้งแบบ oil free และ oil injected
ปั๊มลมชนิดนี้เป็นปั๊มลม ที่มีหลักการทำงานโดยอาศัย screw 2 ตัวในการทำลมและสร้างแรงดัน pressure โดยหลักการทำงานของปั๊มลมแบบ screw คือ screw ตัวผู้และ screw ตัวเมีย จะขบเข้าหากัน และรีดลมให้เกิดแรงดันโดยนำลมจากด้านหนึ่งส่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ภายในระบบปั๊มลม
ปั๊มลมชนิด screw type นี้เหมาะกับอุตสาหกรรมขนาดกลาง ไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากปั๊มลมชนิดนี้สามารถทำลมได้ต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถทำงานภายใต้สภาวะความร้อนสูงได้
ก่อนการเลือกปั๊มลมมาใช้ซักตัว หลักๆ แล้วมีหลายสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ดังต่อไปนี้
คำนวณปริมาณการใช้ลมของเครื่องจักรทั้งหมดภายในโรงงาน (Flow Rate) โดยนำค่าปริมาณการใช้ลม Maximum ของเครื่องจักรทั้งหมดภายในโรงงานมารวมกัน และ นำไปเทียบกับปั๊มลมของผู้จำหน่ายว่าตรงกับรุ่นไหน อาจมีหน่วยในการวัดเป็น
และการคำนวนเลือกปริมาณ flow ลมรวมนั้นควรมีการคำนวน safety factor เข้าไปร่วมด้วย ซึ่งปกติสามารถเลือกได้ตั้งแต่ 25% ไปจนถึงการ back up ที่ 100% ของทั้งระบบรวม
คำนวณค่าแรงดันการใช้ลมของเครื่องจักรทั้งหมดภายในโรงงาน (Working Pressure) โดยนำค่าแรงดัน การใช้ลมสูงสุด ของเครื่องจักรมาเป็นตัวตั้ง และนำไปเทียบกับสเปคปั๊มลม ของผู้จำหน่ายว่าตรงกับรุ่นไหน อาจมีหน่วยในการวัดเป็น
และการเลือกรุ่นแรงดัน pressure ของปั๊มลมต้องเลือกให้สูงกว่าค่า operating pressure ของการใช้งานนั้นๆ (แต่ก็ไม่ควรเลือก pressure สูงเกินจำเป็นเนื่องจาก จะเกิดการสูญเสียของ flow capacity ของปั๊มลม และแรงดันที่สูงเกินไปจะทำให้เกิดการกินค่าไฟมากเกินจำเป็น โดย pressure สูงเกินจำเป็น ทุกๆ 1 bar มีค่าเท่ากับค่าพลังงาน 7%
เลือกชนิดของปั๊มลม ว่าจะใช้เป็น oil free หรือ oil injected โดยเลือกให้เข้ากับชนิดของอุตสาหกรรมที่ทำ หรืออ้างอิงจาก ISO8573-1 : 2010 และส่วนระบบระบายความร้อนของเครื่องนั้น จำเป็นต้องมีการพิจารณาอ้างอิงตามสภาพหน้างาน ว่าจะใช้เป็นชนิด air cool หรือ water cool
สนใจติดตามข่าวสารอัพเดทความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมปั๊มลมใหม่ๆ สามารถกดติดตามพวกเราได้ที่
Social Media: www.facebook.com/cetiagroup
Line: @cetiacorp