Comparison of Screw Air Compressor and Piston Air Compressor

- เปรียบเทียบปั๊มลม Screw กับปั๊มลมลูกสูบ -

ปัจจุบันเครื่องปั๊มลมมีการใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะทางด้านอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นโรงงานขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือขนาดใหญ่ เช่น อู่ซ่อมรถ, ศูนย์ทันตกรรม, ผลิตเฟอร์นิเจอร์ ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์, ผลิตอาหาร, โรงไฟฟ้า และอื่นๆอีกมากมาย จากที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราเท่านั้น จะเห็นได้ว่าวงจรชีวิตของเรานั้นต้องใช้ปั๊มลมแทบทั้งสิ้น ทั้งนี้ปั๊มลมได้รับการพัฒนาขึ้นหลายประเภทเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในลักษณะต่างๆ โดยส่วนใหญ่แล้วปั๊มลมที่นิยมใช้กันมี 2 ประเภทได้แก่ ปั๊มลมประเภทลูกสูบ และ ปั๊มลมประเภทสกรู โดยซึ่งปั๊มลมทั้ง 2 ชนิดนี้มีข้อแตกต่างทั้งหลักการ การทำงาน การดูแลรักษา และ application ด้านการใช้งานดังนี้

ปั๊มลมประเภทลูกสูบ (Piston air compressor) ถือเป็นปั๊มลมที่นิยมใช้งานมากที่สุด เหมาะที่จะใช้งานกับโรงงานที่มีขนาดเล็ก หรือใช้ลมปริมาณน้อย และไม่ใช้งานต่อเนื่อง สามารถเคลื่อนที่ได้ง่ายหากต้องการเคลื่อนย้ายจุดใช้งาน

หลักการทำงาน

หลักการทำงานของปั๊มลูกสูบคือ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นต้นกำลังขับเครื่องลูกสูบให้เคลื่อนที่ขึ้นลง ทำให้เกิดแรงดูดและอัดอากาศภายในกระบอกสูบ โดยมีวาล์ว 2 ตัว คือวาล์วทางด้านดูดอากาศ และ วาล์วทางด้านอากาศออก ทำงานสัมพันธ์กัน

โดยที่ช่วงการดูดอากาศ ลิ้นช่องดูดเข้าจะเปิดออก เพื่อดึงอากาศเข้ามาภายในกระบอกสูบ ส่วนลิ้นทางด้านอากาศออกจะปิดสนิท เมื่อถึงช่วงการอัดอากาศ ตัวลูกสูบจะดันอากาศให้ออกทางลมออก ทำให้ลิ้นทางลมออกเปิด ส่วนทางลิ้นดูดอากาศจะปิดลง เมื่อลูกสูบเลื่อนขึ้นลงจึงเกิดการดูดและอัดอากาศขึ้น

การลงทุน

• มีราคาไม่สูงมากนัก มีการลงทุนต่ำ เนื่องจากหาซื้อได้ง่าย และซ่อมง่าย

การใช้พลังงาน

• อัตราการใช้พลังงานหรือการกินไฟนั้นสูง เนื่องจากใช้วิธีตัดดับ – รีสตาร์ท (start – stop) เครื่องจะกินไฟมากในขณะสตาร์ท เมื่อมีการตัดดับ และสตาร์ทตัวขึ้นใหม่หลายครั้งจะทำให้เปลืองค่าไฟ ทั่วไปการกินไฟจะสูงกว่าปั๊มลมแบบ screw อยู่ราว 30% ณ เครื่องที่ kW เท่าๆ กัน

การบำรุงรักษา

• มีวิธีการดูแลรักษาง่าย มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าปั๊มลมแบบสกรู

ความดังของเสียง

• มีเสียงดังมากกว่าปั๊มลมแบบสกรู ซึ่งความดังของเสียงอยู่ในระดับที่เป็นมลภาวะทางเสียง ไม่เหมาะกับการใช้งานภายในสภาวะแวดล้อมที่มีคนอยู่อย่างต่อเนื่อง

ปั๊มลมลูกสูบเหมาะกับใคร

• ปั๊มลมลูกสูบเหมาะสำหรับกลุ่ม application ที่มีการใช้ลมน้อย และไม่ต่อเนื่องจนเกินไป เช่น การเป่าทำความสะอาด 5ส, ร้าน car care เนื่องจากปั๊มลมชนิดนี้ไม่สามารถทำงานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง เพราะตัวเครื่องไม่มีระบบพัดลมระบายความร้อน ทำให้การใช้งานต่อเนื่องจะทำให้เครื่องเสี่ยงต่อการไหม้ได้

ปั๊มลมประเภทสกรู (Screw air compressor) นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่

หลัการทำงาน

หลักการทำงานในเครื่องปั๊มลมจะมีเพลา 2 ตัว คือ เพลาตัวผู้ และ เพลาตัวเมีย ใช้มอเตอร์หมุนเพลาสกรู 2 ตัว ให้หมุนเข้าหากัน ทำให้เกิดแรงอัดอากาศขึ้นมา โดยเพลาตัวผู้จะเป็นตัวขับ ส่วนเพลาตัวเมียจะหมุนตาม เครื่องปั๊มลมแบบสกรูจะได้ปริมาณลมที่สม่ำเสมอกว่าแบบลูกสูบ ทั้งนี้ปริมาณลมและแรงดันลมขึ้นอยู่กับกำลังของมอเตอร์และการออกแบบชุดสกรู ยิ่งกำลังขับมอเตอร์สูง ตัวเครื่องปั๊มลมก็จะผลิตลมได้มากและมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย

การลงทุน

• มีการลงทุนที่สูงกว่าเครื่องปั๊มลมลูกสูบ เพราะภายในตัวเครื่องนั้นมีอุปกรณ์ที่ช่วยในการปรับปรุงคุณภาพลมให้สะอาดหลายชนิด และออกแบบให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องได้

การใช้พลังงาน

• ปั๊มลม screw type นั้นมีวิธีสตาร์ทแบบ Star-delta เป็นวิธีที่นิยมใช้สตาร์ทมอเตอร์ขนาดใหญ่ สามารถช่วยลดกระแสไฟขณะสตาร์ทได้ มีระบบ Load-Unload ไม่ตัดต่อบ่อยครั้งเหมือนเครื่องปั๊มลมลูกสูบ จึงประหยัดไฟได้มากกว่า

การบำรุงรักษา

• ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามีมากกว่าปั๊มลมลูกสูบ เพื่อป้องกันน้ำหรือน้ำมันที่ปะปนมากับลม ภายในตัวเครื่องจึงมีอุปกรณ์ที่กรองน้ำหรือน้ำมัน เช่น Air filter, Oil filter, Oil separator และอื่นๆ เนื่องจากเพื่อให้ได้คุณภาพลมที่สะอาดกว่า

ความดังของเสียง

• เสียงเบากว่าเมื่อเทียบกับปั๊มลมลูกสูบ ก่อให้เกิดเสียงรบกวนน้อยกว่า

ปั๊มลม Screw Type เหมาะกับใคร

• ปั๊มลม screw type นั้นเหมาะกับกลุ่มอุตสาหกรรมตั้งแต่ขนาดเล็ก ไปจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เนื่องจากตัวเครื่องปั๊มลมนั้นรองรับการทำงานต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง และสามารถใช้งานภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีอากาศร้อนได้ โดยมีชุดระบายความร้อน เข้ามาช่วยในการระบายความร้อนระบบ