LabVIEW Structures:
ในการเขียนโปรแกรมหน้า Block Diagram ของโปรแกรม LabVIEW จำเป็นต้องมีการควบคุมการไหลของข้อมูลให้ไหลไปในรูปแบบที่ต้องการ เพราะในบางกรณีอาจต้องการให้ข้อมูลไหลไปในทิศทางหนึ่ง หรือในบางกรณี ต้องการให้มีการประมวลผลส่วนใดส่วนหนึ่งของข้อมูลซ้ำไปเรื่อยๆ จนครบตามเงื่อนไขที่กำหนด ในโปรแกรมภาษาตัวหนังสือ เช่น ภาษา C หรือภาษา Python นั้นจะมีการควบคุมการทำงานได้ค่อนข้างจะแตกต่างกับการใช้ภาษารูปภาพหรือโปรแกรม LabVIEW เพราะภาษาตัวหนังสือจะทำการประมวลผลทีละบรรทัดจากบนลงล่าง โครงสร้างการประมวลผล (Structures) รูปแบบต่างๆ ในโปรแกรม LabVIEW ที่ใช้ในการควบคุมการไหลของข้อมูล จะประกอบไปด้วยโครงสร้าง 3 แบบ คือ While Loop, For Loop and Case Structure ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
👉While Loop จะเป็นการทำงานหรือประมวลผลซ้ำกันไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ใช้จะยกเลิกสถานะตามที่กำหนด ส่วนการกำหนดสถานะจะใช้ตัวแปร Boolean ต่อเชื่อมเข้ากับ Conditional Terminal ที่จะเห็นว่ามีลักษณะเป็นวงกลมสีแดง การทำงานของ While Loop จะดำเนินการทำซ้ำไปเรื่อย ๆ ตราบใดที่สถานะของตัวแปร Boolean ที่ต่อเชื่อมให้กับ Conditional Terminal เป็นเท็จ (FALSE) โดยจะหยุดตรวจสถานะที่ Terminal นี้หลังจากการประมวลผลแต่ละครั้ง โดยจะประมวลผลก่อนแล้วจึงจะหยุดตรวจ นั่นคือตราบใดที่สถานะตัวแปร Boolean ที่กำหนดให้ Conditional terminal เป็นเท็จ While Loop ก็ยังจะทำงานไปเรื่อยๆ เมื่อสถานะตัวแปร Boolean เป็นจริง (TRUE) While Loop จะหยุดทำงานทันที สามารถเลือกใช้ While Loop ได้โดยการคลิกขวาที่หน้า Block Diagram >> Function >> Structure >> While Loop แสดงตามภาพด้านล่าง
👉For Loop ป็นการให้โปรแกรมทำงานภายในเงื่อนไข ที่กำหนด โดยภายในจะมี Terminal อยู่ 2 จุด ได้แก่ 1) N คือ Count Terminal ซึ่งเป็นตัว Input สำหรับกำหนดว่าจะให้ทำซ้ำเป็นจำนวนกี่ครั้ง และ i เป็น Iteration Terminal ซึ่งเป็น Output ที่จะแสดงจำนวนครั้งที่จะมีการทำซ้ำ โดยค่าจะเริ่มจาก 0 สำหรับการทำครั้งแรกและ N-1 สำหรับครั้งสุดท้ายเมื่อ i เป็นค่าเท่ากับ N-1 โปรแกรมจะออกจาก For Loop และไปประมวลผลขั้นตอนต่อไปทันที For Loop สามารถเลือกใช้ได้โดยการคลิกขวาหน้า Block Diagram >> Structure >> For Loop ตามภาพด้านล่าง
👉Case structures เป็นโครงสร้างการทำงานที่ควบคุมให้โปรแกรมทำงานตามแต่ละกรณี (Case) ที่กำหนด ซึ่งอาจจะกำหนดด้วย Boolean คือ จริงหรือเท็จ ซึ่งก็จะเหมือนกับการใช้คำสั่ง “if-then-else” ของภาษาคอมพิวเตอร์ทั่วไป หรืออาจกำหนดเป็นตัวเลข 0, 1, 2, 3, ... หรือกำหนดเป็นข้อความต่างๆ โดยโปรแกรมจะตรวจสอบข้อมูลจาก Input ที่เชื่อมต่อเข้ากับ Terminal ที่มีเครื่องหมาย “?” เรียกว่า Selector Terminal โดยหาก Input ตรงตามชื่อ Case ใด โปรแกรมใน Case นั้นจะถูกประมวล สามารถเลือกใช้ Case Structure ได้โดยคลิกขวาที่หน้า Block Diagram >> Case Structure แสดงตามภาพด้านล่าง